ค่าเงินบาทแข็งค่าในรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เหตุ กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ชี้มีเสียงสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เผยติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐ เดือน ต.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานค่าเงินบาท วันที่ 15 พ.ย. 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับปิดเมื่อวานที่ 32.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ล่าสุดค่าเงินบาทซื้อขายอยู่ที่ระดับ 32.72-33.02 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ด้านนักวิเคราะห์ค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทวันนี้ มีทิศทางแข็งค่าขึ้น สวนทางกับค่าเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่ โดยมาจากปัจจัยหลักคือคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% โดยมีเสียงสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งเหตุผลที่คณะกรรมการฯ สนับสนุนการคงดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ดี แม้ว่าการส่งออกและการท่องเที่ยวจะชะลอลง ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยยังคงให้น้ำหนักการลดพฤติกรรมแสวงหาผลกำไรโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง (search-for-yield) ในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำยาวนานเป็นสำคัญ และต้องการเพิ่มขึ้นขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ในอนาคต โดยวันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวที่แนวรับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แนวต้านให้ไว้ที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อคือยอดค้าปลีกของสหรัฐ และสหราชอาณาจักรเดือนตุลาคม ดุลการค้ายูโรโซนเดือนกันยายน