การกลับมาของ ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

คอลัมน์ ลงทุนทั่วโลก

โดย สุรศักดิ์ ธรรมโม ธนาคาร Standard Chatered

ความเสี่ยงเกาหลีเหนือเพิ่มแต่ผลต่อตลาดปัจจุบันมีจำกัดโดยความตึงเครียดเพิ่มจากเกาหลีเหนือขู่จะยิงขีปนาวุธใกล้พรมแดนสหรัฐในเกาะกวมเพื่อตอบโต้กับคำเตือนของประธานาธิบดีสหรัฐก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกยกเว้นเกาหลีใต้มีจำกัด โดยหลายตลาดระดับปิดของดัชนียังใกล้กับระดับสูงสุดอยู่ (สหรัฐ และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น) โดยการปรับลงของดัชนีตลาดขณะนี้สอดคล้องกับการประเมินของเราเพราะผลตอบแทนตลาดหุ้นที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งมาก ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ในอดีตได้ให้โอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้น

“เกาหลีเหนือ” เป็นความเสี่ยงหลักที่เราจับตาใกล้ชิด

Advertisment

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นจากระดับแนวรับที่ 92.6 จุด จากการอ่อนค่าของยูโรโดยมีตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ เดือน ก.ค. ที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยหนุนร่วมด้วย โดยในแนวโน้มระยะกลาง เราคาดดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบ

ดังนั้นการฟื้นของดอลลาร์สหรัฐล่าสุดให้โอกาสลงทุนในตราสารหนี้ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่จ่ายผลตอบแทนเป็นสกุลเงินของผู้ออก ซึ่งราคาปรับลงจากความไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์

เราแนะให้ทำกำไรในหุ้นกู้จ่ายดอกเบี้ยสูงที่ออกในประเทศพัฒนาแล้ว (ต้นปีจนถึงล่าสุดผลตอบแทนของหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูงทั่วโลกอยู่ที่ 7.7%) และนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ประเทศตลาดเกิดใหม่

ยุติกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นในเกาหลีใต้ โดยความตึงเตรียดของเกาหลีเหนือที่เพิ่มทำให้หุ้นเกาหลีใต้มีความผันผวนเพิ่มในระยะใกล้ เราแนะให้ “ขายทำกำไร” ในหุ้นเกาหลีที่ได้กำไรประมาณ 5.3% นับจากวันที่เราแนะนำให้เข้าลงทุนเมื่อ 5 พ.ค.ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ในอีก 12 เดือนข้างหน้ายังเป็นตลาดที่เราชอบที่สุดจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและราคาที่ไม่แพง

Advertisment

ส่วนผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ต่อตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงอยู่ระดับใกล้ระดับดัชนีสูงสุดเป็นประวัติการณ์แต่ดัชนีความผันผวนของตลาดหุ้น S&P 500 เพิ่มกว่า 60% ในสัปดาห์นี้ เรายังจับตาความเสี่ยงที่เกี่ยวกับเกาหลีเหนือว่ามีสัญญาณเพิ่มระดับหรือไม่ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศพัฒนาแล้วที่ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจในประเทศ เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรป จะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์

การที่นักลงทุนหันมาสนใจกลุ่มที่อิง “อุปสงค์ในประเทศ” จะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรป โดยนักลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วจะกลับมาสนใจกลุ่มอุตสาหกรรมที่อิงอุปสงค์ในประเทศจากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มในเอเชีย โดยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น (ไม่ใช่กรณีการคาดการณ์หลักของเรา) จะส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศให้ชะงัก เราแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรป ซึ่งจะได้ประโยชน์ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะเมื่อคำนึงว่าเศรษฐกิจในยุโรปเริ่มฟื้นตัว

ผลประกอบการสหรัฐโดดเด่นโดยในไตรมาส 2/2560 บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐรายงานผลประกอบการโดดเด่นและแข็งแกร่งโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งกำไรไตรมาสนี้ขยายตัว 11% ดีกว่าที่คาดตอนเริ่มประกาศผลประกอบการที่ 8% ขณะที่กลุ่มธนาคารสหรัฐกำไรขยายตัว 16% โดยมาจากธนาคารใหญ่ ๆ เป็นปัจจัยหลัก ซึ่งเมื่อเทียบกับภาพรวมที่กำไรของ S&P 500 ในไตรมาสนี้ขยายตัวที่ 12% ดีกว่าที่คาดที่ 8% ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่เราแนะนำลงทุน

โดยสรุปแล้ว เป็นโอกาสเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่จ่ายผลตอบแทนเป็นสกุลเงินของผู้ออกตราสาร หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นจากระดับแนวรับทางเทคนิคเป็นผลของความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่ม ทั้งนี้ เราแนะให้ขายทำกำไรในตลาดหุ้นเกาหลี ซึ่งเราชอบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรปจากการที่นักลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วจะกลับมาเน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ภายในประเทศ