ออมสินปรับโฉมโมบายรถ-เรือ ส่งระบบ “ซูโม่” บริการออนไลน์

“ชาติชาย” ปรับโฉม “รถโมบาย-เรือออมสิน” ดึงระบบ “ซูโม่” ให้บริการออนไลน์ผ่านไอแพด ชี้ลดต้นทุนบริการแทนเปิดสาขาเหลือแค่ 2 ล้านบาทต่อคัน หวังเติมเต็มกลุ่มประชาชนพื้นที่ห่างไกล-ไม่มีสาขาธนาคาร

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2562 ธนาคารออมสินมีแผนจะนำรถตู้เคลื่อนที่ (โมบาย) รูปแบบใหม่ออกให้บริการแก่ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสาขาให้บริการโดยขณะนี้กำลังปรับปรุงและพัฒนารถโมบายของธนาคารที่มีจำนวน 130 คัน ให้มีเป็นรถอเนกประสงค์และคล่องตัวมากขึ้น และลดต้นทุนของธนาคาร ด้วยการนำระบบ “ซูโม่” ซึ่งใช้ไอแพดมาให้บริการธุรกรรมฝาก-ถอนเงินแทนการขนตู้เอทีเอ็มติดรถเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะหนักและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

“เราพัฒนาระบบซูโม่ ซึ่งสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เหมือนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ แต่จะทำผ่านระบบออนไลน์ที่จะมีผลกับยอดเงินในบัญชีทันที จากนั้นจะมีข้อความแจ้งเตือนไปที่โทรศัพท์มือถือของลูกค้า โดยธนาคารไม่ได้คิดค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น”

นายชาติชายกล่าวว่า แนวทางดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนในการทำรถโมบายต่ำลง เหลือแค่ 2 ล้านบาทต่อคัน จากปกติที่จะสูงกว่านี้มาก เพราะการเปิดสาขาต้องใช้เงินลงทุนถึง 30 ล้านบาทต่อสาขา และยังต้องใช้พนักงานประจำสาขาอีก 8-10 คน ส่วนรถโมบายจะใช้พนักงานให้บริการแค่ 2 คนต่อคัน

“รถโมบาย 20 คัน จะเทียบได้กับการเปิดสาขาของออมสิน 1 สาขา ซึ่งเราจะทยอยปรับปรุง คาดว่าระยะแรกจะสามารถให้บริการรถโมบาย รูปแบบใหม่ได้ปี 2562 ประมาณ 20-30 คัน ก็จะช่วยให้ประชาชนมาใช้บริการฝาก-ถอนได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงบริการให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ยังไม่มีธนาคารเข้าไปเปิดสาขา หรือในพื้นที่ห่างไกล” นายชาติชายกล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารยังมี “เรือเคลื่อนที่” ที่ปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 3 ลำ ก็จะเพิ่มอีก 1 ลำในปีหน้า และจะมีการปรับปรุง และพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นด้วย ซึ่งใช้งบประมาณราว 2-3 ล้านบาทต่อลำ

“เมื่อก่อนการให้บริการตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ จะเน้นลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงสาขาได้ เพราะเดินทางไม่สะดวก และเป็นการเพิ่มช่องทางให้บริการด้วย ทุกวันนี้ชุมชนริมน้ำเปลี่ยนไป มีคนรวยที่อยู่ริมน้ำมากขึ้น รวมถึงเราตั้งใจว่าจะอนุรักษ์เรือออมสินไว้เป็นประวัติศาสตร์ด้วย” นายชาติชายกล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดแคมเปญ “ออมสินส่งสุข ใจดี…มีว้าว” เพื่อมอบโชคให้กับลูกค้าธนาคาร ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อและจัดทำนิติกรรมสัญญาสินเชื่อสตรีตฟู้ด วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย MRR +1.5% ถึง 5.00% ต่อปี ชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 10 ปี

ส่วนสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย กรณีกู้ไม่เกิน 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5-0.75% ต่อเดือน กรณีกู้ 200,001-1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR +1.5% ถึง 3.00% ต่อปี ชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี

ขณะที่สินเชื่อธุรกิจห้องแถว วงเงินกู้ 200,000-1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย MRR +1.5% ถึง 5.00% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี และสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน วงเงินกู้ 2 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ อยู่ที่ 1% ต่อเดือน ชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 8 ปี โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ 7% ต่อปี

โดยลูกค้าที่มีสิทธิ์จะต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อ และจัดทำนิติกรรมสัญญาสินเชื่อ 4 ประเภทนี้ ภายในช่วงวันที่ 1 ธ.ค. 61 -31 ส.ค. 62 บัญชีละ 1 สิทธิ์ ยกเว้นสินเชื่อ Street Food ที่ได้สิทธิ์การจับรางวัลบัญชีละ 2 สิทธิ์ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 135,000 ราย

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!