KTBST มองหุ้นไทยวันนี้อาจมีการรีบาวด์กลับมา แต่ยังมีปัจจัยกดดันเรื่องการลด QE ธนาคารกลางต่างๆ

KTBST มองหุ้นไทยวันนี้อาจมีการรีบาวด์กลับมา แต่ยังมีปัจจัยกดดันเรื่องการลด QE ธนาคารกลางต่างๆ กลยุทธ์ลงทุนควรลดหุ้นที่ราคามีแนวโน้มลงต่อ มองหุ้นส่งออกแนวโน้มดีจากเงินบาทอ่อนค่า หุ้นที่น่าสนใจ HANA , SINGER, MTLS , BPP , PTTGC, TMT “

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 ก.ค.) ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด นักลงทุนกำลังปรับพอร์ตรับการขึ้นดอกเบี้ยและลด QE ของ Fed และธนาคารกลางอื่นๆ (ยกเว้นญี่ปุ่น) อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลยุโรปและรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ 26 มิ.ย.เป็นต้นมา (US Gov. 30 yrs Bond Yield สูงขึ้นถึง 0.20%) แรงขายพันธบัตร มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง แต่น่าจะได้เห็น คือค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เรามองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก ที่หุ้นกลุ่มนี้ ได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ $43-50 เหรียญ จนกว่าภาวะ oversupply จะเริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำเรามองเป็นบวกต่อผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นต้นหรือสายการบิน

ส่วนผลประชุม G-20 ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไทย คือ สหรัฐฯลดการใช้มาตรการภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อออสเตรเลีย น่าจะลดแรงกดดันต่อสินค้าทั้งสองตัว และสหรัฐฯถอนตัวออกจากความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยรวมๆแล้วผลออกมาดีต่อตลาด และสัปดาห์นี้น่าจะเห็นมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนือบางอย่างออกมา

ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ อาจเห็นการรีบาวน์ของตลาดหลังผ่านวันหยุดมาแล้ว แต่การปรับพอร์ตของนักลงทุนรับการลด QE ผสมกับแรงขายหุ้นในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบลดลง และสถานการณ์เกาหลีเหนือ จะทำให้ทิศทางตลาด ยังมีความเสี่ยงขาลงอยู่ โดยเฉพาะถ้าหลุดแนวรับสำคัญลงไป ในด้านเทคนิค แนวรับแรกของดัชนีฯ ที่สำคัญ 2 จุด คือ 1,566 และ 1,553 จุด ส่วนแนวต้านของสัปดาห์นี้ เราให้ไว้ที่ 1,583 จุด

“ด้วยตัวแปรในต่างประเทศที่ยังกดดันตลาดหุ้น ส่วนปัจจัยบวกในประเทศรับรู้มาระดับหนึ่งแล้ว กลยุทธ์ลงทุนจึงต้องเลือกทั้งสองด้านคือ ลดพอร์ตหุ้นที่ราคามีแนวโน้มลงต่อ หรือรอจังหวะซื้อหุ้น เมื่อดัชนีฯมีการฟื้นตัว เนื่องจากเรามองว่า upside ของดัชนีฯ นั้นมีไม่มากนัก คือโอกาสผ่าน 1,590 ยังยากเพราะปัจจัยบวกไม่มากพอ นักลงทุนควรเพิ่มการถือเงินสดให้มากขึ้น ในระดับ 30-40% โดยหุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มบวกสัปดาห์ เราให้ความสนใจกับ หุ้นกลุ่มส่งออก, หุ้นงบ 2Q ที่คาดจะออกมาดี และหุ้นมีข่าวบวก (เก็งกำไรช่วงสั้น) สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ HANA , SINGER, MTLS , BPP , PTTGC, TMT หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค: PTG, SCI, AMA”

Advertisment