สรรพากรปัดรับลูกคลัง ยืมมือรีด “ภาษีลาภลอย”

สรรพากรร่อนหนังสือถึงคลัง ปฏิเสธเป็นหน่วยงานหลักเก็บภาษีลาภลอย ชี้ไม่มีเครื่องมือและความชำนาญ รวมถึงประสบการณ์ประเมินราคาทรัพย์สิน ด้านปลัดคลังสั่ง สศค.ประสานงานหาข้อสรุป ก่อนฟันธงให้หน่วยงานใดจัดเก็บ

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีที่กระทรวงการคลังได้ยกร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. …. หรือภาษีลาภลอย และต่อมามีการแก้ไขร่างกฎหมายกำหนดให้กรมสรรพากรเป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดเก็บภาษี โดยมอบอำนาจให้กรมที่ดิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดเก็บแทน

รวมถึงยังกำหนดให้อธิบดีกรมสรรพากรมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีเพื่อนำเงินมาชำระภาษีค้างเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินได้นั้น ล่าสุดทางกรมสรรพากรได้ทำหนังสือปฏิเสธกลับไปยังกระทรวงการคลังว่า ไม่สามารถเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องนี้ได้

สมชัย สัจจพงษ์

“กรมสรรพากรทำหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปว่า ทางกรมไม่มีเครื่องมือและความชำนาญในการจัดเก็บ เพราะการเก็บภาษีลาภลอย หรือ Windfall Tax เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ด้านการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งทางกรมสรรพากรไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ เพราะที่ผ่านมา กรมสรรพากรจะเก็บภาษีจากฐานรายได้ ไม่ได้เก็บจากฐานทรัพย์สิน” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ ตามร่างกฎหมายเดิมที่ยกร่างตั้งแต่แรกก็กำหนดให้กรมที่ดิน และ อปท. เป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีลาภลอยอยู่แล้ว เพียงแต่ต่อมาหลังเปิดรับฟังความคิดเห็น ก็มีการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมาย โดยกำหนดให้ทางกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดเก็บภาษีหลัก แต่ให้มีการมอบหมายให้กรมที่ดิน และ อปท. เป็นผู้จัดเก็บภาษีนี้แทน

โดยทางกรมที่ดินจะรับผิดชอบจัดเก็บภาษี ในกรณีที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการรถไฟฟ้า ทางด่วน สนามบิน ท่าเรือ เป็นต้น อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะเก็บจากการขายหรือเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือห้องชุดทุกครั้ง ยกเว้นการเปลี่ยนมือในลักษณะการโอนมรดก

ส่วน อปท.จะจัดเก็บภาษีในกรณีเมื่อโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งจะเก็บจากที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท โดยจัดเก็บจากห้องชุดของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รอการจำหน่าย ทั้งนี้ จะเก็บภาษีในปีถัดไปจากปีที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ โดยจะเก็บแค่ครั้งเดียว

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระทรวงการคลังยังมีนโยบายผลักดันร่างกฎหมายเพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีลาภลอยนี้อยู่ โดยอยู่ระหว่างให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาในรายละเอียด และประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมว่า จะกำหนดให้หน่วยงานใดเป็นผู้มีอำนาจในการจัดเก็บภาษีลาภลอยนี้

“กำลังให้ สศค.ประสานอยู่ว่า ใครจะเป็นผู้จัดเก็บ ตอนนี้ยังพิจารณากันอยู่ ยังตอบไม่ได้ชัดเจน ดังนั้น ขอรอผลสรุปก่อน จึงจะบอกได้” นายสมชัยกล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สศค. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สศค.ได้มีการขยายระยะเวลารับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย ออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้รอบด้านก่อน