“กสิกรไทย-ออมสิน” ประกาศใช้ ATM ร่วมกันใน 5 จังหวัด

ธนาคารกสิกรไทย จับมือธนาคารออมสินใช้โมเดลเอทีเอ็มสีขาว (White Label ATM) ให้บริการตู้เอทีเอ็มร่วมกันใน 5 จังหวัด “ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส-สกลนคร-นครพนม” ลูกค้าทั้ง 2 ธนาคารฟรีค่าธรรมเนียมไม่จำกัดจำนวนครั้งใช้บริการ แถมลดค่าธรรมเนียมโอนข้ามจังหวัดเหลือ 15 บาท ตั้งแต่ 8 พ.ย.62 ถึง 30 เม.ย.63

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมลงนามความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจกับธนาคารพาณิชย์ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อการบริหารจัดการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคตร่วมกัน และสานต่อนโยบายเครื่องเอทีเอ็มสีขาวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

ทั้งนี้ จะมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับลูกค้า ครอบคลุมการถอนเงินสด สอบถามยอดเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตร โดยลูกค้าของแต่ละธนาคารจะสามารถทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มของอีกธนาคารหนึ่งเสมือนใช้บริการของธนาคารที่ลูกค้าถือบัตร ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563 โดยธนาคารกสิกรไทยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างธนาคารทันทีที่ลูกค้าทำรายการ ขณะที่ธนาคารออมสินจะคืนค่าธรรมเนียมที่ถูกเรียกเก็บให้กับลูกค้าในวันถัดไป

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือในวันนี้ของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเอทีเอ็มสีขาว หรือ White Label ATM ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ในการใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็มจากการมีเครือข่ายเอทีเอ็มที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์กับธนาคารที่จะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน การบริหารจัดการเอทีเอ็ม การบริหารจัดการเงินสด และช่วยให้จัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสิน จะสามารถใช้บริการทั้งการถอนเงิน สอบถามยอด และโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรที่เครื่องเอทีเอ็มของทั้ง 2 ธนาคาร โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารและทำธุรกรรมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สำหรับการทำธุรกรรมในจังหวัดเดียวกัน จากเดิมที่ลูกค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารเมื่อใช้บริการตั้งแต่รายการที่ 5 ภายในเดือนเดียวกันส่วนการทำธุรกรรมข้ามจังหวัดสำหรับโครงการนี้ การถอนเงินสดจะคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการการโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตร ลูกค้าธนาคารกสิกรไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนลูกค้าธนาคารออมสินคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การให้บริการทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มในประเทศไทย มีมานานหลายสิบปี ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละแห่งต่างมีต้นทุนในการบริหารจัดการ แต่จากความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารสามารถเข้าถึงและใช้บริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเป็นต้นแบบเพื่อรองรับการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มกับลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนเครื่องเอทีเอ็มหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนในการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคต

“สำหรับระยะแรกความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทย จะนำร่องในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร นครพนม ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยมีเครื่องเอทีเอ็มในพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าว เกือบ 400 เครื่อง และในระยะต่อไปของการให้บริการจะขยายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารออมสินมีเครื่องเอทีเอ็มมากกว่า 7,000 เครื่อง เมื่อรวมกับเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่มีกว่า 10,000 เครื่อง จะถือว่ามีจุดบริการมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ธนาคารจะร่วมมือกันพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมและอำนวยความสะดวกสบายแก่ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารมากยิ่งขึ้น” นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวว่า ธนาคารออมสินมีแผนการเพิ่มจำนวนเครื่องเอทีเอ็มอีกประมาณ 6,000 เครื่อง ซึ่งจะทยอยติดตั้งและจะส่งผลให้จำนวนเครื่องเอทีเอ็มรวมของธนาคารอยู่ที่ 12,000-13,000 เครื่องในปี 2563 โดยหลังทำโครงการเอทีเอ็มสีขาวร่วมกับธนาคารกสิกรไทยแล้ว หากธนาคารขนาดเล็กที่อาจไม่สะดวกในการลงทุนทำเอทีเอ็มสีขาวเองก็สามารถร่วมกับธนาคารออมสินเพื่อให้บริการในลักษณะเดียวกันได้ รวมถึงธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่มีจำนวนเครื่องเอทีเอ็มรวมกันประมาณ 2,500 เครื่อง ขณะที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารออมสินมีประมาณ 7,400 เครื่อง ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เครื่องเอทีเอ็มร่วมกันได้เช่นกัน