หุ้นไทยปิดตลาด +0.99 จุด แรงซื้อ “หุ้นแบงก์-อสังหา” พยุงตลาด

หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ +0.99 จุด ดัชนี SET อยู่ที่ระดับ 1,581 จุด แรงซื้อ “หุ้นแบงก์-อสังหา” พยุงตลาดยืนบวก สัปดาห์หน้าติดตามลงนามการค้าเฟส 1-รายงานเงินเฟ้อสหรัฐ

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ม.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,580.63 จุด ปรับขึ้น +0.99 จุด หรือคิดเป็น +0.06% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 52,033 ล้านบาท โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,573.80-1,584.16 ตลอดช่วงตลาดเปิดทำการวันนี้

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1. BAM มูลค่าซื้อขาย 2,785.28 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.80 (+3.65%)
2. GPSC มูลค่าซื้อขาย 2,739.59 ล้านบาท ราคาหุ้น +2.75 (+3.02%)
3. ADVANC มูลค่าซื้อขาย 2,181.42 ล้านบาท ราคาหุ้น -4.00 (-1.83%)
4. PTT มูลค่าซื้อขาย 2,176.95 ล้านบาท ราคาหุ้น -0.50 (-1.06%)
5. KBANK มูลค่าซื้อขาย 2,020.42 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.00 (-0.72%)
6. CPALL มูลค่าซื้อขาย 1,573.08 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.25 (+0.34%)
7. GULF มูลค่าซื้อขาย 1,272.41 ล้านบาท ราคาหุ้น +3.00 (+1.72%)
8. BEAUTY มูลค่าซื้อขาย 1,205.98 ล้านบาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
9. CPF มูลค่าซื้อขาย 1,090.76 ล้านบาท ราคาหุ้น -0.25 (-0.85%)
10. PTTEP มูลค่าซื้อขาย 1,084.45 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.50 (-1.13%)

ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับลง -0.12 จุด หรือ -0.01% อยู่ที่ 1,071.03 จุด ส่วนตลาด mai ปรับลง -0.03 จุด หรือ -0.01% อยู่ที่ระดับ 303.75 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 ม.ค.63 ว่า ตลาดวันนี้เป็นภาพแกว่งผันผวนในกรอบแคบๆ ปิดตลาดที่ 1,580.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.06% มูลค่าการซื้อขายรวม 52,033.36 ล้านบาท โดยหุ้นแต่ละกลุ่มจะเริ่มบวกลบกระจัดกระจาย ซึ่งหุ้นวันนี้มีปรับตัวบวกขึ้นมาที่ช่วยหนุนตลาดคือ หุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่หุ้นปรับลงกดดันตลาดคือ หุ้นในกลุ่มไอซีทีและปิโตรเคมี ปัจจัยที่ทำให้ตลาดแกว่งแคบเนื่องจากตลาดหุ้นไทยเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามา หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดซึมซับประเด็นความตึงเครียดและผ่อนคลายในตะวันออกกลาง ขณะที่ประเด็นที่ต้องติดตามช่วงเย็นวันนี้คือ การรายงานตัวเลขการตจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ธ.ค.62 ของสหรัฐ และตัวเลขอัตราการว่างงาน

ส่วนทิศทางสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค.63) ลักษณะการเคลื่อนไหวคงขึ้นจำกัด-ลงจำกัด แกว่งในกรอบ 1,555-1,560 จุด ส่วนแนวต้านมองที่ 1,600 จุด โดยสัปดาห์ประเด็นที่ต้องติดตามคือ ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเฟส 1 ที่เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเซ็นต์สัญญาในวันที่ 15 ม.ค.63 ส่วนประเด็นอื่นๆ จะเป็นการติดตามตัวเลขดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ สำหรับวันอังคารที่ 14 ม.ค.63 จะมีการรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน ธ.ค.62 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.3% ซึ่งถ้าออกมาแบบนี้เชื่อว่าทิศทางดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเป็นลักษณะของ “คงดอกเบี้ย” ไว้ตลอดทั้งปี ขณะที่วันศุกร์ที่ 17 ม.ค.63 ติดตามตัวเลขจีดีพีของจีนช่วงไตรมาส 4/62 ก็คาดว่าจะออกมาเติบโต 6%

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนเน้น Selective หุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวคือ หุ้นกลุ่มรับเหมาน่าจะมีบรรยากาศที่ดีขึ้น หลังจากการพิาจรณางบประมาณเชื่อว่าวันนี้เป็นวันเดดไลน์ที่น่าจะผ่านไปได้ กระบวนการถัดไปวันที่ 20 ม.ค.63 จะไปสู่ขั้น ส.ว.พิจารณา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะผ่าน ดังนั้นน่าจะทำให้การลงทุนภาครัฐดูแล้วน่าจะต่อเนื่องหลังจากที่ล่าช้ามานาน ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องการลงทุนน่าจะได้เซนติเมนต์เชิงบวก