ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) ที่ระดับ 31.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.29 บาทต่อดอลลาร์
โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 31.20-31.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทรายสัปดาห์อยู่ที่ 31.15-31.45 บาทต่อดอลลาร์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ ในวันทำการก่อนหน้า ตลาดการเงินฝั่งเอเชียยังคงฟื้นตัวไม่ทั่วถึงเนื่องจากมีปัญหาไวรัสระบาดกดดัน แตกต่างจากฝั่งสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นต่อได้อย่างแข็งแกร่งหลังจากถูกขายทำกำไรไปเมื่อสิ้นสัปดาห์ก่อน โดยหุ้นเทคโนโลยีเป็นกลุ่มหลักที่ปรับตัวขึ้นจากผลประกอบการที่ดีกว่าคาด ดัชนี Nasdaq บวกต่อเนื่อง 1.1% หนุนให้ S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.7%
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวลง 1.4bps มาที่ระดับ 1.56% เนื่องจากในวันพุธ (12 ก.พ.) นี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะต้องเข้าให้แถลงการณ์ภาพเศรษฐกิจกับรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งตลาดเชื่อว่าเฟดต้องให้สัญญาว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกถ้าเศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหา
ในส่วนของตลาดเงิน ภาพตลาดดังกล่าว ถือว่าเป็นบวกกับดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าสกุลเงินอื่นใน G10 ขณะที่ในฝั่งของเงินบาท ดูจะยังมีการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางของทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ซึ่งน่าจะเป็นการชะลอตัวตามทิศทางการค้าจากปัญหาไวรัสระบาด เสริมด้วยความไม่มั่นใจกับทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ จึงทำให้ส่วนใหญ่เลือกที่จะรอดูสถานการณ์
“แม้ระยะยาว เรายังคงมองทิศทางของเงินบาททั้งปี มีโอกาสแข็งค่ากลับได้จากประเด็นการเมืองสหรัฐและภาพเศรษฐกิจเอเชียที่น่าจะกลับมาได้หลังผ่านเรื่องไวรัสไปแล้ว แต่ในระยะสั้น เชื่อว่าจะยังมีนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามา ซื้อดอลลาร์และขายเงินบาท จากภาพเศรษฐกิจที่น่าจะอ่อนแอลง หนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวสูงขึ้นได้” ดร.จิติพลกล่าว