ธ.ก.ส. จับมือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล หนุนพัฒนาเกษตร 8 พันครัวเรือน

ธ.ก.ส. จับมือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล หนุนการเจาะบ่อน้ำบาดาล การจัดหาแหล่งน้ำบาดาล น้ำต้นทุนให้กับชุมชนที่มีศักยภาพมาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ภายใต้การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเกื้อกูล พร้อมสนับสนุนสินเชื่อและพัฒนาสู่การเป็นธุรกิจชุมชน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้น้ำบาดาลเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ร่วมกับ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อร่วมจัดหาน้ำต้นทุนและยกระดับกลุ่มเกษตรกรจากกลุ่มผู้ใช้น้ำ เป็นกลุ่มผู้ผลิต และนำไปสู่การพัฒนาภาคเกษตรเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน เนื่องจากธ.ก.ส. มุ่งยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเกษตรไทยทั้งในด้านเงินทุนและให้ความรู้ในการบริหารจัดการ

รวมถึงปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการทำเกษตรกรรม คือ “น้ำ” โดย ธ.ก.ส. และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันในการคัดเลือกชุมชน องค์กรชุมชน ที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ด้วยการสนับสนุนการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล สนับสนุนน้ำต้นทุน ในการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและสามารถนำไปบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนใหม่ จำนวน 10 ชุมชน และพัฒนากลุ่มผู้ใช้น้ำเดิม จำนวน 793 ชุมชน

นอกจากนี้ยังส่งเสริมอาชีพกลุ่มผู้ผลิตเพื่อก้าวสู่ธุรกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ภายใต้สโลแกน “ตั้ง เติม ต่อ อนุรักษ์” โดยสนับสนุนการตั้งกลุ่มใหม่ สำหรับชุมชนที่มีความพร้อมในการพัฒนา แต่ยังไม่มีกลุ่มเป็นรูปธรรม เติมสินเชื่อให้กับกลุ่มที่มีศักยภาพทางธุรกิจผ่านกระบวนการ ค้นหาโอกาสและศักยภาพของกลุ่มหรือชุมชน พร้อมจัดทำแผนธุรกิจ และผสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเพื่อเติมองค์ความรู้ เสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เติมสินเชื่อเพื่อพัฒนาสู่ธุรกิจชุมชน ต่อยอดธุรกิจ

สำหรับกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจชุมชนและมีความเข้มแข็ง ให้ก้าวสู่ธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการปลูกต้นไม้ภายใต้โครงการธนาคารต้นไม้และสนับสนุนการเติมน้ำลงสู่ดินภายใต้โครงการสร้างฝายชะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ (ฝายมีชีวิต) เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการไม่น้อยกว่า 8,000 ครัวเรือน