ธอส. ชี้หนี้เสียพุ่ง 9 พันล้าน เร่งตั้งสำรองฯ ครบ 5.3 พันล้านบาท สิ้นปีนี้

ธอส. คาดทั้งปีปล่อยสินเชื่อเกินเป้า ทะลุ 2.15 แสนล้านบาท ชี้หนี้เสียพุ่ง 9 พันล้าน  เร่งตั้งสำรองหนี้สูญให้ครบ 5.3 พันล้าน ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมยืดเวลาช่วยลูกค้ารับผลกระทบโควิด

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อหลังเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สะสมถึง 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ปล่อยไปแล้ว 143,900 ล้านบาท โดยในช่วงปลายปีนี้จะมีการเร่งปล่อยสินเชื่อใหม่ คาดว่าจะสามารถทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อปีนี้ได้กว่า 215,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 210,000 ล้านบาท

ส่วนสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เฉลี่ยอยู่ที่ 8.5% อย่างไรก็ดี ตัวเลขไม่ได้สะท้อนศักยภาพการชำระสินเชื่อของลูกหนี้อย่างแท้จริง เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการดำเนินการมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ 10 มาตรการ ซึ่งมีลูกค้าอยู่ในมาตรการดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 511,110 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 430,439 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มาตรการต่างๆ ก็ทยอยครบกำหนดไปแล้ว โดยเฉพาะมาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับผู้มีเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมาตรการสิ้นสุดเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 180,000 ล้านบาท

“สำหรับมาตรการที่ 5 ที่สิ้นสุดลงแล้ว มีลูกค้ากว่า 1 แสนล้านบาท ได้เข้าร่วมมาตรการที่ 8.5 คือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปอีกถึงเดือน ต.ค.63 จำนวน 39,546 บัญชี วงเงินสินเชื่อประมาณ 27,000 ล้านบาท แล้วมีลูกค้าที่ไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติและกลายเป็น NPL 9,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.5% ซึ่งธอส. จะมีการติดต่อลูกค้า เพื่อเข้าไปช่วยในมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป”

ขณะเดียวกัน ธนาคารก็มีการตั้งสำรองหนี้สูญล่วงหน้าไปแล้วกว่า 3,500 ล้านบาท จากเป้าในปี 2563 จะตั้งสำรองหนี้สูญกว่า 5,300 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่คำนวณไว้ให้ครบในสิ้นปีนี้ ซึ่งเหลืออยู่เพียง 1,800 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารคาดว่าจะสามารถทำได้ 1.35 หมื่นล้านบาท แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด จึงได้ขอปรับเป้าลงมาเหลือเพียง 8 พันล้านบาท แต่คาดว่าหลังจากมีการตั้งสำรองฯ แล้วจะสามารถทำได้กว่า 9,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ปรับลดไป

นายฉัตรชัย กล่าวว่า พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีมติขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ระยะที่ 2 เฉพาะลูกค้าเดิมที่อยู่ระหว่างการได้รับความช่วยเหลือใน 3 มาตรการ

ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้น 3 เดือน, มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้น 6 เดือน และมาตรการที่ 8 พักชำระเงินต้น 3 เดือน ซึ่งทั้ง 3 มาตรการจะสิ้นสุดระยะเวลาความช่วยเหลือในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือด้วยการพักชำระ เงินต้นและดอกเบี้ยเพิ่มเติมไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564

“ทั้ง 3 มาตรการที่ธนาคารขยายความช่วยเหลือ ในครั้งนี้ครอบคลุมจำนวนลูกค้าที่มีสิทธิ์ขยายระยะเวลาเป็นวงเงินสินเชื่อจำนวนกว่า 250,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกค้าต้องแจ้งความประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาผ่าน Application GHB ALL ได้ระหว่างวันที่ 1-29 ตุลาคม 2563 พร้อมแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันว่ายังมีผลกระทบทางรายได้จริงให้ธนาคารพิจารณา อาทิ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย และ Statement เป็นต้น”

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก ของปี 2564 ธนาคารตั้งเป้ามีลูกค้าใช้บริการโมบายแอปพลิเคชันของธนาคารครบ 1 ล้านราย โดยปัจจุบันมีลูกค้าใช้งานแล้ว 7.5 แสนราย ซึ่ง ธอส. ได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นแอปพลิเคชั่นของธนาคาร เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น โดยสามารถซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส., ขอ Statement บัญชีเงินฝาก, ใบเสร็จชำระเงินกู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA บนแอปพลิเคชั่นโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารได้