สรรพสามิตลั่นเก็บภาษี 5 แสนล้าน

กรมสรรพากร

อธิบดีสรรพสามิตคนใหม่มอบนโยบายเจ้าหน้าที่เร่งหาช่องทางเพิ่มรายได้ภาษีในปีงบประมาณ 2564 หวังจัดเก็บให้ได้ตามเป้า 5.3 แสนล้านบาท เน้นดึงเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ ยันไม่ให้กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ได้มอบนโยบายข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรม ให้หาช่องทางการเพิ่มรายได้ โดยที่ไม่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับการบ้านไปศึกษาหาแนวทาง เพื่อนำมาใช้ในการจัดเก็บภาษีแล้ว ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2564 นี้

กรมได้รับเป้าหมายจัดเก็บรายได้ที่ 5.3 แสนล้านบาท ปรับลดลงจากเอกสารงบประมาณที่มีประมาณการรายได้อยู่ที่ 6.3 แสนล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายใหม่

“ความท้าทายของกรมก็คือจะทำอย่างไรให้ปีงบประมาณ 2564 สามารถเก็บภาษีให้ได้ตามเป้า 5.3 แสนล้านบาท และหากทำได้ดีกว่านั้นก็จะเป็นประโยชน์ในการบริหารรายได้ของรัฐบาล ซึ่งในหลักการได้มอบนโยบายไปแล้ว ตอนนี้ก็มั่นใจว่าจะเก็บได้ตามเป้าที่ปรับใหม่ โดยกรมได้มีการเตรียมความพร้อม เช่นการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อลดต้นทุนของการจัดเก็บภาษีให้ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีได้” นายลวรณกล่าว

สำหรับภาษีความเค็ม และภาษีเบียร์ 0% ที่อยู่ในแผนเดิมของกรมนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ขณะนี้คงจะให้ความสำคัญในการจัดเก็บรายได้ที่ไม่กระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากกว่า

Advertisment

ส่วนการขยายเวลาลดภาษีน้ำมันสายการบินที่มาตรการสิ้นสุดไปในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นายลวรณ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยต้องประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวขณะนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร ก่อนจะหาข้อสรุป

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา ข้อมูลล่าสุดจนถึง ณ 24 ก.ย. 2563 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 543,067.08 ล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 546,644.65 ล้านบาท

แต่เมื่อเทียบเอกสารงบประมาณที่อยู่ที่ 501,000 ล้านบาท พบว่า สูงกว่าประมาณการถึง 42,067 ล้านบาท