ส่องกองทุนทองคำ ผลตอบแทนสุดว้าว ย้อนหลัง 1 ปีบวกกว่า 25%

ทองคำ

ส่องกองทุนทองคำผลตอบแทนยังแจ่ม แม้ราคาทองช่วงนี้ลดดีกรีความร้อนแรงลง “มอร์นิ่งสตาร์ฯ” โชว์ข้อมูล 1 ปีย้อนหลัง “รีเทิร์น” บวกเฉียด 26% “บลจ.พรินซิเพิล” ไม่แนะนำซื้อทองช่วงนี้ ระบุควรรอราคาลดต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อน ฟาก “ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้เทรนด์ Q4 ราคาทองคำโลกแตะ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนทองในประเทศส่อพุ่งใกล้ 29,000 บาทอานิสงส์ “ชุมนุมการเมืองกดดันบาทอ่อน” ปัจจัยหนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงไตรมาส 3/2563 ที่ผ่านมา ได้ลดความร้อนแรงลง โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.ราคาทองคำต่างประเทศ (gold spot) ปรับขึ้นแค่ประมาณ 6% จาก 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกปรับขึ้นสูงถึง 16.78% จากระดับ 1,516.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,770.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.ปรับขึ้นประมาณ 8% จาก 26,000 บาท/บาททองคำ มาอยู่ที่ 28,250 บาท/บาททองคำ จากที่ในช่วงครึ่งปีแรกปรับขึ้นสูงถึง 20.75% จากระดับ 21,450.00 บาท/บาททองคำ มาอยู่ที่ 25,900 บาท/บาททองคำ ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นแล้วประมาณ 26.18% ส่วนราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นประมาณ 32.17%

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมในช่วงไตรมาส 3/2563 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะชะลอตัวกว่าไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี กลุ่มกองทุนทองคำยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีสวนทางกับกองทุนประเภทอื่น ๆ เช่น กองทุนผสม กองทุนตราสารทุน และกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยค่อนข้างต่ำ

ทั้งนี้ กองทุนรวมประเภทสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) มีเงินไหลออกสุทธิ 1.6 พันล้านบาท ต่ำสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นขณะที่ในเดือน ก.ย.เมื่อราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อย พบว่ากองทุนกลุ่มนี้เริ่มมีทิศทางเป็นเงินไหลเข้าสุทธิหลังจากมีแรงขายทำกำไรออกมา 6 เดือนติดต่อกัน โดยในเดือน ก.ย.

Advertisment

กลุ่มกองทุนทองคำเริ่มมีทิศทางเงินไหลเข้ากว่า 500 ล้านบาท หลังจากมีเงินไหลออกติดต่อกันมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563

โดยกองทุนทองคำยังมีเงินไหลออกสุทธิในไตรมาส 3 ที่ 1.3 พันล้านบาท และรวม 9 เดือนปี 2563 กองทุนทองคำมีเงินไหลออกสุทธิ 7.5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดี นางสาวชญานีกล่าวว่า แม้ราคาทองคำในตลาดโลกอาจมีการปรับตัวลงมาบ้างในไตรมาสล่าสุด แต่กองทุนทองคำยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6.7% ทำให้ยังเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูงติดอันดับในรอบ 1 ปีที่ 25.9% ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากกองทุนเทคโนโลยีต่างประเทศ (Global Technology) และกองทุนธุรกิจการแพทย์ต่างประเทศ (Global Health Care)

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นประมาณ 400 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับประมาณ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนทองคำปรับขึ้นเช่นกันในช่วงที่ผ่านมา

Advertisment

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบจากราคาสูงสุดของทองคำต่างประเทศปีนี้ที่ประมาณ 2,050 ดอลลาร์/ออนซ์ พบว่าราคาทองคำปรับลดลงมาแล้วประมาณ 100 ดอลลาร์/ออนซ์ ดังนั้น จึงไม่แนะนำนักลงทุนเข้าลงทุนในตอนนี้ โดยแนะนำให้รอราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์จึงค่อยหาจังหวะเข้าลงทุน

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ในช่วงสั้นราคาทองคำต่างประเทศมีการย่อตัวลงมาเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ทุกครั้งที่ราคาทองคำย่อตัวลงจะพบว่ามีแรงซื้อจากกองทุนทองคำเข้ามาหนุน เนื่องจากระยะยาวนักลงทุนสถาบันยังกังวลกับปัจจัยการเมืองสหรัฐที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.นี้

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 จะมีมาตรการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าปริมาณเงินจะค่อนข้างสูง และจะส่งผลกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสวนทางกับราคาทองคำ

โดยฮั่วเซ่งเฮงประเมินเป้าหมายราคาทองคำไตรมาส 4 ที่ 1,950 ดอลลาร์/ออนซ์ ในส่วนของราคาทองคำในประเทศ ประเมินราคาเป้าหมายที่ 28,350-28,500 บาท/บาททองคำ และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นทดสอบ 29,000 บาท/บาททองคำ

“แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่า แต่พบว่าค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าลงเช่นกันเนื่องจากถูกปัจจัยการเมืองในประเทศจากการชุมนุมต่อเนื่องกดดัน ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ดีกว่าราคาทองคำต่างประเทศ” นายธนรัชต์กล่าว