ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จับตาการแถลงของเฟด

เงินดอลลาร์สหรัฐ
REUTERS/Marcos Brindicci/File Photo

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จับตาการแถลงของเฟด ขณะที่ตลาดยังกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ 30 พฤศจิกายน 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/11) ที่ระดับ 30.27/28  บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (27/11) ที่ระดับ 30.28/29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงขึ้น 30,000 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยตัวเลขที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 778,000 ราย สูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ที่ 732,000 ราย

โดยสาเหตุที่เพิ่มขึ้นเกิดจากมาตรการควบคุมโรคที่รัดกุมในบางรัฐของสหรัฐ ส่งผลให้ภาคธุรกิจบางแห่งมีการปลดพนักงานออกมากยิ่งขึ้น ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน

ส่วนปัจจัยภายในประเทศในวันนี้ (30/11) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือน ต.ค. เกินดุล 0.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการเกินดุลต่ำที่สดในรอบ 4 เดือน พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.หดตัวในอัตราสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการหดตัวในเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนในเดือน ต.ค. ปรับตัวลดลง 1.1% จากเดือนก่อน

Advertisment

สำหรับมูลค่าส่งออกในเดือน ต.ค. ปรับตัวลดลง 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการหดตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าตามการส่งออกในบางหมวดสินค้า ขณะที่มูลค่าการนำเข้า หดตัวลง 12.1% ส่งผลให้มียอดเกินดุลการค้า 3.17 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.25-30.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.28/29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/11) ที่ระดับ 1.1956/57 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/11) ที่ระดับ 1.1962/65 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

โดยตลาดยังคงจับตามองเรื่องด้านความคืบหน้าประเด็น Brexit โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่าผู้แทนทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้มีการส่งสัญญาณความคืบหน้าบางประการในประเด็นเรื่องข้อกำหนดด้านความเสมอภาคทางการแข่งขัน แต่ยังคงมีประเด็นด้านการประมง ซึ่งยังคงถือเป็นปัญหาที่ตกลงกันไม่ได้

Advertisment

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1954-1.1983 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1975/78 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/11) ที่ระดับ 104.05/06 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (30/11) ที่ระดับ 104.10/13 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้ (30/11) กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.ปรับตัวขึ้น 3.8% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5

ส่วนดัชนีการผลิตที่โรงงานและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 95.0 ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ซึ่งอยู่ที่ 91.6 ขณะที่ดัชนีการขนส่งในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 4.6% แตะที่ 94.7 และดัชนีสต๊อกสินค้าคคงคลังภาคอุตสาหกรรม ลดลง 1.6% แตะที่ระดับ 95.9 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 103.82-104.20 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 104.23/25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) (1/12), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ย. (2/12), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (3/12), ดุลการค้าเดือน ต.ค. (4/12), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. (4/12),

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 0.35/0.55 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.5/+0.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ