ยูโอบี ออกมาตรอุ้มลูกหนี้รายย่อย-ธุรกิจฝ่าโควิด

เงินบาท-ดอลลาร์

ธนาคารยูโอบี ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคล-ลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบุลูกค้าบัตรเครดิต-บัตรกดเงินสด พักหนี้ 3 รอบบัญชี ขยายเวลาชำระสูงสุด 48 เดือน สินเชื่อบ้านชำระแค่ดอกเบี้ย 12 รอบบัญชี ส่วนลูกค้าธุรกิจเน้นเสริมสภาพคล่องผ่านซอฟต์โลน-ปรับโครงสร้างหนี้-รวมหนี้ตามนโยบายธปท.ช่วยลดภาระหนี้ของประชาชน

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างพยายามทำหน้าที่ในส่วนของตนอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยกันเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้น สำหรับยูโอบีเอง เราได้ขยายเวลาให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อให้สามารถผ่านเวลาช่วงนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่ง และในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านการธนาคารที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเสมอมา เราหวังว่ามาตรการช่วยเหลือจะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินและลดผลกระทบทางธุรกิจที่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจต้องเผชิญจากสถานการณ์ที่ยาวนานขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารได้ออกโครงการให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้ารายย่อย โดยลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบีและทูมอร์โรว์ บัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส สินเชื่อส่วนบุคคล i-Cash และสินเชื่อบ้านที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชีมาก่อน สามารถ สามารถแจ้งความประสงค์ในการขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 รอบบัญชี โดยลูกค้าสามารถยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564

ลูกค้าผู้ถือบัตรบัตรเครดิตยูโอบี บัตรเครดิตทูมอร์โรว์และบัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส ยังสามารถเปลี่ยนยอดหนี้คงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 48 รอบบัญชี และเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน สามารถแจ้งความประสงค์พักชำระเงินต้นโดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 รอบบัญชี

นอกจากนี้ ลูกค้ารายย่อยธนาคารยูโอบี ทีมีหนี้คงค้างในบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อบุคคลสามารถสมัครเข้าโครงการรวมหนี้ (Debt Consolidation Programme) ได้หากมีสินเชื่อบ้านยูโอบี โดยจะช่วยให้ลูกค้าลดภาระดอกเบี้ยและค่าผ่อนชำระต่อเดือนเมื่อเทียบกับสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน โดยจะใช้บ้านเป็นหลักประกันแทน ลูกค้าสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการรวมหนี้ได้จนถึง 31 ธันวาคม 2564

สำหรับโครงการให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าธุรกิจ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถยื่นขอสินเชื่อ BOT Soft Loan เพื่อเสริมสภาพคล่องในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ไม่มีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก โดยผู้ประกอบการต้องมีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 500 ล้านบาทกับธนาคาร และวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นขอสินเชื่อซอฟต์โลนได้จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2564

นอกเหนือจากสินเชื่อซอฟต์โลน ลูกค้าธุรกิจธนาคารยูโอบี ที่ต้องการความช่วยเหลือในการชำระคืนเงินกู้ที่มีอยู่ สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างภาระการชำระหนี้รายเดือนได้เช่นกัน นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีสินเชื่ออยู่กับหลายธนาคาร ยังสามารถติดต่อธนาคารยูโอบี ประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมโครงการแก้หนี้สำหรับภาคธุรกิจ “DR Biz การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” ที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้โดยการรวมหนี้และลดระยะเวลาการติดต่อธนาคารหลายแห่ง ผ่านแนวทางที่ธนาคารได้ทำการตกลงร่วมกัน