ดอลลาร์อ่อนค่า หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐต่ำกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐ
(File Photo by JOEL SAGET / AFP)

ดอลลาร์อ่อนค่า หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐต่ำกว่าคาด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ม.ค.ปรับตัวขึ้นแค่ 0.3% ผลจากตลาดแรงงานและภาคบริการได้รับผลกระทบจากโควิด ส่วนเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 29.87/88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่าภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/2) ที่ระดับ 29.91/92 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (10/2) ที่ระดับ 29.90/91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐปิดเผยอัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค. ที่ระดับต่ำกว่าคาด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ม.ค.ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือน ธ.ค. เนื่องจากถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้กระทบต่อตลาดแรงงานและภาคบริการ

นอกจากนี้เมื่อวานนี้ (10/2) นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน อีกทั้งย้ำว่าเฟดต้องการเห็นตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 1.20 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน

ในส่วนของค่าเงินบาท เปิดตลาดทรงตัวจากปิดตลาดเมื่อวันพุธ (10/2) โดยค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 29.86-29.93 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 29.87/88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/2) ที่ระดับ 1.2114/17 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (10/2) ที่ระดับ 1.2116/18 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ตลาดยังคงแสดงความกังวลต่อการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ล่าช้าในสหภาพยุโรป ซึ่งเมื่อเทียบกับสหรัฐ และสหราชอาณาจักรแล้ว อัตราการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในสหภาพยุโรปยังต่ำกว่าอยู่ถึง 4 เท่า

นอกจากนี้นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดการเจรจาในการจัดสรรงบกองทุนช่วยเหลือ (EU Recovery Fund) มูลค่า 750 ล้านยูโร ว่าจะให้กับโครงการใด ประเทศใดบ้าง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.2111-1.2135 ดอลลาร์สหรัฐ/ยุโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2126/30 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/2) ที่ระดับ 104.60/62 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (10/2) ที่ระดับ 104.57/59 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ (10/2) นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ประกาศข่าวดีว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการญี่ปุ่น ในวาระวันระลึกการเลือกตั้งของประเทศ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 104.54-104.76 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 104.70/72 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (11/2), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหราชอาณาจักร ประจำไตรมาสที่ 4/2563 (12/2), ผลิตผลภาคอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร เดือนธันวาคม (12/2), ผลิตผลภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรป เดือนธันวาคม (12/2), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกนสหรัฐ เดือนกุมภาพันธ์ (12/2)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 0.25/0.40 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 2.8/3.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ