ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างหลังกำไรหุ้น Real sector ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด แต่อัพไซต์ไปไหนไม่ได้ไกลท่ามกลางโควิดระลอก 3 คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,575-1,595 จุด ติดตามประชุม ครม. เรื่องมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด ประชุม กนง. ครั้งที่ 3 ของปี คาดคงดอกเบี้ย จับตาสหรัฐหลัง “เจเน็ต เยลเลน” รมว.คลังสหรัฐ กล่าวถึงการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเร็วกว่าคาด
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 5 พ.ค. 2564 ว่า ตลาดหุ้นวันนี้ไปไหนได้ไม่ไกล เช้านี้อาจฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างหลังการประกาศผลประกอบการของกลุ่ม Real Sector ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดเข้ามาหนุนให้การปรับฐานเมื่อวันศุกร์ดัชนียังยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุดได้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
แต่อัพไซต์เช้านี้อาจจะไปไหนได้ไม่ไกล ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย จึงคาดว่าเช้านี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,575-1,595 จุด โดยอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านแถว 1590 จุด (+/-) แต่ไม่น่าผ่านไปได้
โดยในวันนี้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3 ของปี ทางฝ่ายวิจัยคาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิมที่ 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อรอประเมินสถานการณ์การระบาดระลอก 3 การกระจายวัคซีน และมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐอีกครั้ง
ส่วนในการประชุมครั้งหน้า (23 มิ.ย. 64) มองว่าน่าจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงต่ำกว่า 3% และหากสถานการณ์ยังรุนแรงมีโอกาสที่ กนง. อาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10-0.25%
ขณะที่ท่าทีล่าสุดของ นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ เริ่มกล่าวถึงการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเร็วกว่าคาด โดยเปิดเผยในงานสัมมนาของนิตยสารดิแอตแลนติกว่า สหรัฐอาจต้องพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจลงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ แม้ว่ามูลค่ามาตรการดังกล่าวจะไม่มากเทียบกับขนาดเศรษฐกิจทั้งประเทศ
ทั้งนี้ต้องติดตามท่าทีของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อีกครั้ง แต่ผลการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดทางเฟดยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และต้องติดตามการประกาศตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐศุกร์นี้ เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน
ส่วนสถานการณ์โควิดระลอก 3 ในประเทศไทยยังไม่สู้ดีนัก หลังช่วงสุดสัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง แม้จะอยู่ในช่วง 1,500-2,000 รายต่อวัน แต่อัตราการเสียชีวิตยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ประกอบกับพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ชุมชนคลองเตยที่มีประชากรหนาแน่นมากราวแสนคน ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้มีโอกาสที่จะรุนแรงกว่าคลัสเตอร์ทองหล่อ ซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศไทยเป็น Overhang จำกัดอัพไซต์ของ SET Index
กลยุทธ์การลงทุน เน้นทยอยขายทำกำไรบริวณแนวต้าน และรอรับกลับเมื่อดัชนีย่อตัวลงมาที่บริเวณ 1,550-1,560 จุด โดยสัดส่วนที่เก็งกำไรระยะสั้นไม่ควรเกิน 30% ของพอร์ต เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเน้นเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ได้ประโยชน์จากโควิด-19, คาดผลประกอบการในไตรมาส 1 ออกมาดี
