หุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งตัว 1,535-1,570 จุด โบรกฯ แนะเล่นเก็งกำไรกลุ่มก่อสร้าง

หุ้น

หุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งตัว 1,535-1,570 จุด โบรกฯ แนะเล่นเก็งกำไร “กลุ่มก่อสร้าง” รับบรรยากาศโครงการลงทุนภาครัฐเริ่มทยอยออก แนะนำหุ้นกำไรไตรมาส 2 ยังดี “เครื่องดื่ม-ยาง” จับตาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลก สภาพัฒน์ฯ แถลงจีดีพีไตรมาส 1 แนวโน้มทั้งปีวันจันทร์

วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สัปดาห์หน้าแนวโน้มตลาดหุ้นไทย (17-21 พ.ค. 64) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหลักทรัพย์ไทย (SET Index) บริเวณ 1,535-1,570 จุด ปัจจัยหลักที่ต้องติดตามคือการรายงานผลตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั้งฝั่งยุโรป อเมริกา และไทย ที่สภาพัฒน์ฯ แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกและแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564 ช่วงวันจันทร์ที่ 17 พ.ค. 64)

โดยปีนี้ฝ่าวิจัยทำประมาณการจีดีพีไว้ที่ 1.8% ซึ่งเชื่อว่ามีดาวน์ไซต์ เพราะเม็ดเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจก้อนสุดท้ายถูกใช้ในโครงการที่ประกาศออกไปแล้ว เพราะฉะนั้นจะเหลือเงินอีกแค่ 1.4 แสนล้านบาทจากงบกลาง โดยสิ่งที่ต้องตามต่อคือ จะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นการบริโภคจะหายหนักมาก ต่อให้ภาคส่งออกโตดี แต่ถูกกดโดยภาคการบริโภค จีดีพีจะมีดาวน์ไซต์ และเชื่อว่ามีโอกาสจะถูกปรับประมาณการณ์จีดีพีลง

โดยฝั่งของสหรัฐสิ่งที่ต้องตามต่อคือตัวเลขเงินเฟ้อ ตัวเลขภาคการจ้างงาน และถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าโทนจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ตลาดค่อนข้างรับรู้ว่าเฟด มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดอัดฉีดเงินเข้าระบบ (QE) เร็วกว่า dot plot ที่ประเมินไว้อยู่ประมาณ 6 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดประเด็นนี้ขึ้นจะเป็นตัวเร่งให้ภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) มีการเร่งตัวปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1.75-1.80% ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงการพักฐานสั้น ๆ

ช่วงนี้เป็นช่วงในการ Revive งบการเงินไตรมาส 1/64 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ว่าทิศทางไตรมาส 2 จะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งฝ่ายวิจัยกสิกรดูแลครอบคลุม 80-90 บริษัท กำไรออกมาดีกว่าคาด ซึ่งผลที่ออกมาถ้าเป็นกลุ่ม Domestic Play ไตรมาส 2 จะดร็อปเกือบหมด ทั้งหุ้นธนาคาร หุ้นค้าปลีก และหุ้นร้านอาหาร ที่ดร็อปแรงแน่นอน ส่วนหุ้นที่ยังพอยืนได้คือ หุ้นเครื่องดื่ม

ขณะที่หุ้นกลุ่ม Global Play จะฟื้นเป็นบางกลุ่ม เช่น หุ้นปิโตรเคมีอย่าง PTTGC, IVL ส่วนหุ้นพวกสินค้าโภคภัณฑ์ต้องเริ่มระมัดระวัง โดยเฉพาะเหล็ก เพราะเล่นเก็งกำไรกันค่อนข้างสูงแล้ว ขณะที่ราคาเหล็กไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้แล้ว จะเห็นประเทศยักษ์ใหญ่ เช่น อเมริกาจะออกมาคุมราคา เพราะฉะนั้นด้วยมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่แพงควรปรับมาเล่นเก็งกำไรสินค้ายางดีกว่า

“ช่วงนี้แนะนำนักลงทุน ถ้าหุ้นตัวไหนรับความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดไม่ได้ ให้รอดูก่อน เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่ตลาดผันผวนจากเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น ถึงแม้จะไม่กระทบเข้ามาในตลาดหุ้น แต่จะส่งผลต่อการปรับตัวลงของอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ซึ่งโดยปกติแล้วหุ้นจะเพอร์ฟอร์มดีตอนช่วงระดับเงินเฟ้ออยู่ที่ 1-3% แต่ถ้าเกินจะกดให้ระดับ P/E ปรับตัวลงมาเป็นอัตโนมัติทั้งโลก”

ดังนั้น ควรเล่นหุ้นที่กำไรไตรมาส 2 ยังดี แม้จะโดนผลกระทบบ้างจากสถานการณ์โควิด ถ้าหุ้นเครื่องดื่มแนะนำ OSP หุ้นยางพาราแนะนำ STA แล้วถ้านักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เล่นเก็งกำไรสั้น ๆ อาจจะรอดูหุ้นก่อสร้างที่ราคาปรับตัวลงมาเกือบ 20% เพราะหลังประกาศงบไตรมาส 1 โครงการลงทุนของภาครัฐจะเริ่มทยอยออก เพราะปีนี้ทั้งปียังไม่เห็นโครงการลงทุนของภาครัฐเลย ดังนั้นช่วงเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป โครงการภาครัฐโครงการใหญ่ ๆ ระดับ 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป เพราะฉะนั้นสามารถกลับมาเก็งกำไรหุ้นก่อสร้างได้