ค่าเงินบาททรงตัวหลัง กนง.คงดอกเบี้ย

ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.14/16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (7/11) ที่ระดับ 33.14/16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยในคืนที่ผ่านมาสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนกันยายน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนสิงหาคม และไม่ไกลจากตัวเลข 6.14 ล้านตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนกันยายน เกิดจากการที่พายุเฮอร์ริเคนได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในโรงแรม และร้านอาหาร ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในโรงแรมและร้านอาหารลดลง 111,000 คนในเดือน ก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา รายงานระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานลดลง 2.7% สู่ระดับ 5.27 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หากไม่รวมผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง รายงานดังกล่าวของกระทรวงแรงงานสหรัฐเป็นสิ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ โดยวัดการเปิดรับสมัครงานในภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งการจ้างงานและการปลดพนักงาน และเป็นข้อมูลเศรษฐกิจที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในโอกาสขึ้นรับรางวัล “Paul H. Douglas Award for Ethics in Government” ซึ่งเป็นรางวัลด้านจรรยาบรรณในวิชาชีพที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวานนี้ว่า เฟดจำเป็นต้องมีจรรยาบรรณ เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า เฟดจะกระทำการในนามตัวแทนของพวกเขาอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม นางเยลเลน ไม่ได้กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐหรือทิศทางนโยบายการเงินของเฟดตามที่ตลาดคาดหวังไว้แต่อย่างใด  โดยเธอกล่าวเพียงว่า เฟดจะสามารถกำหนดนโยบายการเงินอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการมอบความไว้วางใจจากประชาชน โดยเฟดจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า เราทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเท่านั้น ทั้งนี้ภาวะตลาดในสัปดาห์นี้ยังคงทรงตัวเนื่องจากไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งนักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลขเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจต่อไปในส่วนของปัจจัยภายในประเทศนั้น ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 33.11-33.145 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 33.11/13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (8/11) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1599/1.1601 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (7/11) ที่ระดับ 1.1572/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของการปฏิรูปนโยบายภาษีของทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีความล่าช้าออกไปอีกในอนาคต ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1587-1.1607 ดอลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.1596/98 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ในส่วนของค่าเงินเยนวันนี้ (8/11) เปิดตลาดที่ระดับ 113.78/80 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (7/11) ที่ระดับ 114.25/27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ความพยายามในการผลักดันการปฏิรูปแรงงานและการยกระดับด้านการดูแลเด็ก ๆ อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเศรษฐกิจและยกระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น นอกจากนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพยายามที่จะเรียกคะแนนเสียงในการอนุมัติแผนเพิ่มงบประมาณในการดูแลเด็กและการศึกษา ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2555 นายอาเบะพยายามที่จะผลักดันให้เพิ่มแรงงานหญิงเนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่า อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากรญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา IMF ได้ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2560 และ 2561 เป็น 3.6% สำหรับปีนี้ และ 3.7% สำหรับปีหน้า ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 113.71-113.92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 113.81/83 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่สำคัญที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวััสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (8/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.7/-0.55 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.0/-1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

Advertisment