ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวการณ์เคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสดีที่ 10 มิถุนายน 2564
ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/6) ที่ระดับ 31.15/16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (9/6) ที่ระดับ 31.16/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยนักลงทุนในวันนี้จับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค.ที่จะเปิดเผยในคืนนี้
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือน พ.ค.เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ของสหรัฐดีดตัวขึ้นสูงเกินคาดในเดือน เม.ย.
หากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือน พ.ค. ก็อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย. 2564
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ (10/6) 2,310 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,208 ราย จากเรือนจำ 102 ราย และมีผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้น 43 ราย ทั้งนี้ ตลาดยังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ หลังเกิดปัญหาปริมาณวัคซีนที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอกับความต้องการ จนทำให้สถานพยาบาลบางแห่งต้องเลื่อนนัดการฉีดออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นอกจากนี้ ในวันนี้ (10/6) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีการเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.ดิ่งลงอยู่ที่ 44.7 จากระดับ 46.0 ในเดือน เม.ย. ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศรอบที่ 3 ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพน้อยลง และการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ล่าช้า ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมากนัก โดยทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.12-31.17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 31.16/18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดวันนี้ (10/6) ที่ระดับ 1.2172/75 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (9/6) ที่ระดับ 1.2190/92 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยการซื้อขายวันนี้เป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากบรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่รวมถึงการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ (10/6)
โดยตลาดคาดว่า ECB จะยังคงดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินที่อัตราปัจจุบันต่อไป เนื่องจากมีสัญญาณว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่ฟื้นตัวได้เร็วตามคาด ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อข้อมูลสำคัญก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.2162-1.2175 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2167/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/6) ที่ระดับ 109.52/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (9/6) ที่ระดับ 109.45/48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.40-109.58 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.47/48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายการค้าส่งของสหรัฐ (9/6), ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของสหรัฐ (10/6), จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (10/6) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรัฐมิชิแกนของสหรัฐ (11/6)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.3/+0.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.0/+2.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ