บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2564
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในประชุมนโยบายการเงินประจะเดือน มิ.ย. พร้อมได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ แต่ ECB ระบุว่า จะเข้าซื้อสินทรัพย์ตามโครงการ PEPP เพิ่มเติมในไตรมาสหน้า “ในอัตราที่สูงกว่าไตรมาสแรกอย่างมีนัยสำคัญ” สะท้อนการเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายซึ่งเป็นปัจจัยกดดันยูโรและทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,870.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทะยานขึ้นในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2008 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ขณะที่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจากปัจจัยชั่วคราวนี้ จะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือ เร่งปรับลด QE ในระยะนี้ นั่นเป็นปัจจัยสำหรับที่กลับมากดดันดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลง จนช่วยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นเกือบ 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวันสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,899.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +1.45 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จาก ม.มิชิแกน
คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,873-1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือหากถือครองทองคำอยู่แล้วอาจเลือกชะลอการเข้าซื้อเพิ่ม