กังวลล็อกดาวน์กดดัน SET คาดแนวรับวันนี้ 1,530-1,535 จุด

stock market หุ้น

กังวลล็อกดาวน์กดดัน SET คาดแนวรับวันนี้ 1,530-1,535 จุด “บล.กรุงศรี” ชี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวนด์เชิงเทคนิค ขณะที่ยอดติดเชื้อพุ่งยังกดดัน

วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ อ่อนตัวแนวรับ 1,530-1,535 จุด ตามบรรยากาศ (Sentiment) เชิงลบตลาดหุ้นรอบบ้านจากความกังวลการระบาด COVID-19 กลายพันธุ์ในหลายประเทศส่งผลให้วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลง ซึ่งกระทบต่อภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้กระแสข่าวการล็อกดาวน์ (Lockdown) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด Covid-19 ภายในประเทศที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นจะกดดันต่อดัชนี

สำหรับปัจจัยวันนี้ต้องติดตามศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประชุมออกมาตรการเพื่อควบคุม COVID-19 หลังวานนี้ (8 ก.ค.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอให้มีการจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด ห้ามออกเคหสถาน ปิดทุกสถานที่เสี่ยง เป็นเวลา 14 วัน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังรุนแรง วันนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) จึงประชุมเพื่อลงมติคาดเน้นควบคุมเข้มงวดเฉพาะจุดมากกว่าสั่งล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ดัชนีอาจดีดตัวกลับขึ้นเล็กน้อย (Technical Rebound) แต่ไปได้ไม่เยอะเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจะเข้ามากดดันในภายหลัง

ด้านดัชนีดาวโจนส์ร่วง 260 จุด กังวลเศรษฐกิจกลับมาชะลอตัว ความกังวลดังกล่าวมีขึ้นหลังรายงานการประชุมของเฟดแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการยังมีความไม่มั่นใจต่อทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคต ขณะเดียวกันจีนออกมาส่งสัญญาณจะลดอัตราเปรียบเทียบระหว่างความเสี่ยง (RRR) ให้กับธนาคารพาณิชย์สะท้อนว่า เศรษฐกิจจีนยังเปราะบางและต้องการแรงกระตุ้น นอกจากนี้ไวรัส COVID-19 ที่กลายพันธุ์จะเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ

ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 0.74 ดอลลาร์ หรือ +1% ราคาปิดที่ 72.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นวันแรกในรอบ 3 วัน รับข่าวการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 6.9 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์หรือโบรกเกอร์ (Consensus) คาดว่าจะลดลง 4 ล้านบาร์เรล และเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 7 สัปดาห์

ทั้งนี้ บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นน่าจับตาวันนี้ ได้แก่ ADVANC หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 214 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 230 บาทต่อหุ้น ได้บรรยากาศ (Sentiment) บวกจากข่าวศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ ADVANC ไม่ต้องนำส่งรายได้ 7,221 ล้านบาทให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามที่มีการฟ้องร้อง ทำให้ ADVANC มีโอกาสบันทึกกลับรายการซึ่งเคยต้องสำรองไปแล้วประมาณ 1,000 ล้านบาทกลับเข้ามาเป็นกำไรได้ในงบการเงิน

และอีกตัว BAM หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ( มหาชน) ราคาปิดที่ 25 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายสูงสุดตามการวิเคราะห์ของโปรกเกอร์ (IAA Consensus) ที่ราคา 29.5 บาทต่อหุ้น แนวโน้มเศรษฐกิจไม่ดี หนี้เสีย (NPLs) มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการติดตามหนี้และบริหารสินทรัพย์ จากการเข้าซื้อหนี้เสีย (NPLs) ในราคาที่ถูกลง (แย่งกันขาย) หนุนพอร์ตลูกหนี้ในมือเพิ่มขึ้นรอออกดอกผลเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว