GULF ได้หุ้น INTUCH เพิ่ม 9.92% ถือรวม 28.85% แซง SINGTEL

กัลฟ์ซื้ออินทัชเพิ่ม

“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” อัพเด9ซื้อหุ้น “INTUCH” ได้เพิ่มจากผู้ถือหุ้นเดิมขาย 9.92% ดันสัดส่วนถือหุ้นรวม 28.85% แซงขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แทน SINGTEL GLOBAL INVESTMENT ด้าน ADVANC ไม่มีผู้แสดงเจตนาขาย

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 64 ว่า ตามที่บริษัทในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 2,599,720,233 หุ้น

หรือคิดเป็นสัดส่วน 81.07% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ และคิดเป็น 81.07% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ (ไม่รวมหุ้นสามัญของกิจการที่ผู้ทำคำเสนอซื้อถืออยู่เป็นจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ) โดยมีกำหนดระยะเวลาการรับซื้อทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นั้น

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ พบว่า ณ สิ้นวันที่ 27 ก.ค. 64 มีจำนวนและสัดส่วนของหลักทรัพย์ที่ถืออยู่เดิมและที่มีผู้แสดงเจตนาขาย จำนวน 318,154,616 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.92%% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ และคิดเป็น 9.92% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และเมื่อรวมกับหุ้นที่ถืออยู่เดิมจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ

จะทำให้ GULF มีสัดส่วนหลักทรัพย์ทั้งหมด 925,032,930 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.85%% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ และคิดเป็น 28.85% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนตาม GULF ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จำนวน 2,973,925,791 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ และคิดเป็น 100% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยมีกำหนดระยะเวลาการรับซื้อทั้งสิ้น 31 วันทำการตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2564 นั้น พบว่า ณ สิ้นวันที่ 27 ก.ค. 64 ไม่มีจำนวนและสัดส่วนของหลักทรัพย์ที่มีผู้แสดงเจตนาขาย