บิตคอยน์ ครอง Market cap. ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสูงถึง 40.31%

สำนักงาน ก.ล.ต.เผยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่าทั่วโลกอยู่ที่ 1.94 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวัน 99.56 พันล้านดอลลาร์  พบว่าบิตคอยน์ เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap.สูงสุด ตามด้วยอีเธอร์เรียม และ ธีเทอร์   ทั้งนี้มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากบุคคลธรรมดาในประเทศ  4.3 หมื่นล้านบาท และมีจำนวนบัญชีซื้อขายอยู่ที่ 3.98 แสนบัญชี

วันที่ 15 มกราคม 2565  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า  ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap. หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 99.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน

โดยสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap. สูงสุดนำโดยบิตคอยน์ (Bitcoin) 40.31% ตามด้วยอีเธอร์เรียม (Ethereum) 19.01% และ ธีเทอร์ (Tether) , บีเอ็นบี (BNB) และ โซลาน่า (Solana) มี Market Cap. อยู่ที่ 3.98% , 3.72% และ 2.24% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 10 ม.ค.65)

ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) พบว่าผลตอบแทนถ่านหิน (Coal) สูงสุดในแอสเซทคลาส อยู่ที่ 15.86% ตามด้วยอลูมิเนียม (Aluminium) 4.27% และน้ำมัน 4.02% ขณะที่อีเธอร์เรียม ติดลบสุดในแอสเซทคลาส -16.63%  ขณะที่สินทรัพย์ประเภทที่ยังติดลบ ได้แก่ บิตคอยน์ -9.94% , ทองคำ (Gold) – 1.05% และดัชนีหุ้นไทย (SET Index)  -0.03%   นอกจากนี้ยังพบว่าบิตคอยน์ และอีเธอร์เรียม มีความผันผวนสูงมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้น และมีสัดส่วนการซื้อขายในแต่ล่ะเดือนรวมถึง XRP มีแนวโน้มลดลงโดยกระจายไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ มากขึ้น

ด้านการซื้อขายสะสมแยกประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัลค่อนข้างกระจายตัว โดยมูลค่าซื้อขายผ่านเว็บเทรด หรือ Exchange ของไทยตั้งแต่ต้นปี (10 ม.ค.65) พบว่า เหรียญคับ (kub) มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 6.13% ตามด้วยธีเทอร์ (Tether) 5.15% ขณะที่บิตคอยน์และอีเธอเรียม มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 3.28% และ 2.08% ตามลำดับ

ทั้งนี้พบว่ามูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากบุคคลธรรมดาในประเทศ ปัจจุบัน (ณ 10 ม.ค.65) มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท และจำนวนบัญชีซื้อขาย อยู่ที่ 3.98 แสนบัญชี  นิติบุคคลต่างประเทศเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงสุด ( ณ 10 ม.ค.65) อยู่ที่ 109.51 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นเดือนม.ค.บุคคลธรรมดาในประเทศและต่างนิติบุคคลต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิ ขณะที่บุคคลธรรมดาต่างประเทศมียอดขายสุทธิอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท