หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ 3 บริษัทยักษ์ “ไมเนอร์-ดุสิต-สยามพิวรรธน์” แห่ระดมทุนขาย

หุ้นกู้

3 บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกชั้นนำ “ไมเนอร์-ดุสิต-สยามพิวรรธน์” เตรียมระดมทุนออกเสนอขายหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์

วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันตามข้อมูลไฟลิ่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่ามี 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) หรือเรียกกันว่า “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงระดับ 8 ประกอบด้วย 1.บมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) 2.บริษัท สยามพิวรรธน์ จํากัด และ 3.บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)

ดุสิตธานี เสนอขาย 1-10 ส.ค. ดอกเบี้ย 8%

สำหรับ DUSIT เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. 2565 แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ กำหนดอัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี

โดยตั้งแต่วันแรกที่สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้จนถึงวันครบกำหนดปีที่ 10 นับจากวันออกหุ้นกู้ (วันที่ 11 ส.ค. 65) อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 0.10% ต่อปี และตั้งแต่วันครบกำหนดปีที่ 10 จนถึงวันครบกำหนดปีที่ 30 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 0.40% ต่อปี และตั้งแต่วันครบกำหนดปีที่ 30 จนถึงวันครบกำหนดปีที่ 50 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 1% ต่อปี และวันครบกำหนดปีที่ 50 นับจากวันออกหุ้นกู้เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2.20% ต่อปี

ทั้งนี้ วันแรกที่สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้คือวันครบกำหนด 5 ปี คือ วันที่ 11 ส.ค. 2570 และอัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปีโดยอ้างอิงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี

Advertisment

โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ยังไม่ประกาศมูลค่าเสนอขาย เป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดย DUSIT มีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่มีหลักประกัน 1,219 ล้านบาท (ณ วันที่ 31 มี.ค. 65)

มีผู้จัดจำหน่าย 3 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 2.บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) และ 3.บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) นายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือ ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้

การจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ที่ BBB+ และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ที่ A แนวโน้ม Stable จากทริสเรทติ้ง

สยามพิวรรธน์ เสนอขาย ส.ค. ซื้อขั้นต่ำ 1 ล้าน

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 เป็นหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ โดยไม่กำหนดอายุ แต่ผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนด 5 ปีเป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกที่ 5.25-5.50% ต่อปี จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน

Advertisment

เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ จองซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท และทวีคูณของ 1 ล้านบาท โดยได้แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมนี้

อันดับเครดิตของบริษัทอยู่ที่ A- แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) ขณะที่หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ BBB แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65 ซึ่งเป็นเครดิตเรตติ้งระดับลงทุน (Investment Grade) สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพความแข็งแกร่งของกลุ่มสยามพิวรรธน์ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำระดับโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ชำระค่าสิทธิการเช่าที่ดินและใช้ในการขยายและปรับปรุงธุรกิจ

ไมเนอร์ ขายรายย่อย ก.ย.

สำหรับ MINT เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ในช่วงเดือนกันยายน 2565 แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน

โดยตั้งแต่วันแรกที่สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้จนถึงวันครบกำหนดปีที่ 25 นับจากวันออกหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 0.25% ต่อปี และตั้งแต่วันครบกำหนดปีที่ 25 จนถึงวันครบกำหนดปีที่ 50 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 1% ต่อปี และวันครบกำหนดปีที่ 50 นับจากวันออกหุ้นกู้เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2% ต่อปี

ทั้งนี้ วันแรกที่สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้คือวันครบกำหนด 5 ปี คือช่วงเดือน ก.ย. 2570 และอัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปี โดยอ้างอิงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี

โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน เบื้องต้นยังไม่ประกาศมูลค่าเสนอขาย โดยเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินชำระคืนหนี้จากการไถ่ถอนหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ของบริษัทที่ออกครั้งที่ 1/2561

มีผู้จัดจำหน่าย 9 ราย คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน ภัทร จำกัด (มหาชน) ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ BBB- แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” และมีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BB เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 65 โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด