จากกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร นำเช็คธนาคาร 2 ฉบับโพสต์ในเฟชบุ๊คส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า เช็คฉบับแรก วงเงิน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ลงชื่อกำกับในเช็คเพื่อให้นำเงินเข้าบัญชีมูลนิธิรัฐบุรุษ ส่วนอีกฉบับเป็นเช็คเงินสดสั่งจ่ายเข้าบัญชี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม โดยเลขที่เช็คทั้ง 2 ฉบับมีลำดับต่อเนื่องกับเช็คที่สั่งจ่ายในชื่อนายพานทองแท้ แต่บุคคลทั้ง 2 กลับไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนดีเอสไอได้ตรวจสอบเงินที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร สั่งจ่ายไปยังบุคคลต่างๆ รวมถึงสอบสวนกรณีที่หลายฝ่ายเข้ายื่นหนังสือให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่มีชื่อรับเช็ค ในส่วนที่มีมูลหนี้ต่อกันจริงๆ เช่น ชำระค่าที่ดิน ดีเอสไอก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้รับเช็ค ทั้งนี้ยืนยันว่าดีเอสไอได้ตรวจสอบครบถ้วนทุกราย แต่ไม่สามารถเปิดเผยผลการตรวจสอบได้ เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวน
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 พ.ค. 2567
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในปีนี้
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ “ร้อยตรีหญิงจุฑารัตน์ เพชรโสม” เป็นร้อยโทหญิง
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า หลังจากนายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ และ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบธุรกรรมการเงินและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ดีเอสไอได้ตั้งคณะทำงานนสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด โดยออกเลขคดีสืบใหม่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบเงินทั้งหมดกว่า 9 พันล้านบาท ดังกล่าวอยู่ระหว่างการการตรวจสอบ จึงยังไม่ได้ชี้แจงหรือตอบข้อสักถามของผู้ร้อง ทั้งนี้ในส่วนของนายพานแท้มีการยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษมาจากทางปปง.ก่อน เป็นคนละส่วนกับที่ดีเอสไอกำลังสืบสวนตามที่ทั้ง 2 ราย ยื่นคำร้องไว้ ซึ่งตอนนี้ก็เร่งดำเนินการอยู่
ที่มา : มติชนออนไลน์