“ศรีวราห์” นำความเห็นเเย้ง “คดีเปรมชัย” ส่ง อสส. ชี้ขาด

รอง ผบ.ตร. นำความเห็นเเย้ง ผบช.ภ.7 ส่ง อสส.ชี้ขาด ฟ้องเปรมชัย หลัง อธ.อัยการภาค 7 สั่งฟ้อง 6 ข้อหา รองโฆษกรับสำนวน คาด อสส.ชี้ขาด ทันก่อนครบฝากขังปลายเดือน เม.ย.

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินศร รอง ผบช.ภ.7 พร้อมคณะพนักงานสอบสวนเข้ายื่นสำนวนการสอบสวนและความเห็นแย้งของ ผบช.ภ.7 ให้อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริษัทอิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัดมหาชน เพิ่มเติม 3 ข้อหาคือ 1.รวมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ป่า และ 3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยก่อนหน้านี้พนักงานอัยการภาค 7 มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายเปรมชัยรวม 6 ข้อหาและสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย 5 ข้อหาโดยข้อหาที่พนักงานสอบสวน ไม่มีความเห็นแย้งคือ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองและร่วมกันกระทำการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร

โดยมีนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกอัยการสูงสุดและนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด เป็นผู้รับสำนวนความเห็นแย้งดังกล่าว

นายธรัมพ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้นำความเห็นแย้งมาให้พนักงานอัยการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนข้อหาที่สั่งฟ้องไปแล้ว 6 ข้อหาเป็นอันยุติ ส่วนข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้องแล้วพนักงานสอบสวนมีความเห็นแย้งจะต้องนำเสนอท่านอัยการสูงสุดชี้ขาด โดยคาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จทันฝากขังและสุดท้ายในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนตามปกติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

Advertisment

ผู้สื่อข่าวถามว่า การสั่งไม่ฟ้อง 5 ข้อหาของพนักงานอัยการก่อนหน้านี้จะทำให้รูปคดีเสียไปหรือไม่ นายธรัมพ์กล่าวว่า ในความเห็นตนคิดว่าไม่น่ากระทบอะไร ที่สั่งฟ้องสามารถดำเนินคดีได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ท่านอัยการสูงสุดพิจารณาขั้นสุดท้ายอีกครั้ง โดยสำนวนที่จะพิจารณานั้นก็เป็นพยานหลักฐานในสำนวนเดิมที่พนักงานสอบสวนส่งมาให้อัยการพิจารณา ทั้งนี้ เหตุที่ไม่มีการสั่งให้สอบสวนเพิ่มในข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องนั้นเข้าใจว่าอัยการภาค 7 เห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอหรือ ข้อหาที่ตั้งมานั้นอาจจะไม่เป็นความผิด ส่วนเรื่องคดีความแพ่งนั้นคงไม่ส่งผลกระทบต่อกัน

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า วันนี้มากราบเรียนท่านอัยการด้วยความเคารพถึงความเห็นแย้งในข้อหา เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่รับอนุญาต ต้องมีกฎกระทรวงมีคำสั่ง กรมอุทยาน มีกฎระเบียบในการเข้าไป จากการศึกษาข้อกฎหมาย ต้องมีการยื่นคำร้อง จึงให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง ส่วนข้อหา พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้าข้อหาล่าสัตว์ป่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำแล้ว ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าทำไมไม่แบ่งหน้าที่กันทำ จะเป็นการลักลั่นกันหรือไม่จึงให้อัยการพิจารณา หากอัยการสั่งเช่นไรตนก็จะมารับทราบคำสั่งต่อไป เคารพในคำสั่งของอัยการ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนการทำกฎหมายตามปกติ

ที่มา: มติชนออนไลน์