“กทม.” ยันไม่มีนโยบายคืนทางเท้าให้ผู้ค้า วอนเห็นใจคนส่วนใหญ่

แฟ้มภาพ

กรณีกลุ่มเครือข่ายแผงลอยไทย เพื่อการพัฒนา อย่างยั่งยืน ได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภากทม.เมื่อวันที่ 11 เมษายน ว่าได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายจัดระเบียบสังคม ทางเดินเท้า และที่สาธารณะโดยการยกเลิกจุดผ่อนผัน ทำให้ขาดเงินหมุนเวียนในการดำเนินชีวิตและเริ่มเป็นหนี้นอกระบบ และจุดรองรับที่ กทม.จัดหาให้นั้นอยู่ไกลจากจุดค้าขายเดิมมาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจึงเรียกร้องขอกลับไปขายจุดเดิมที่เคยถูกยกเลิก หรือจุดผ่อนผันนั้น

เมื่อวันที่ 17เมษายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือที่เครือข่ายแผงลอยไทยฯ ยื่นถึงสภากทม. แต่ยืนยันว่าจุดที่กทม.ยกเลิกไปแล้วไม่สามารถกลับมาขายได้อีกแน่นอน เช่น สยามสแควร์ ปากคลองตลาด ฯลฯ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ที่กทม.ยกเลิกไปเป็นพื้นที่ชุมชน มีความหนาแน่นของประชาชนมาก ถ้ามีแผงค้าก็จะไปกีดขวางทางเดินเท้าที่จอดรถ ส่วนที่เหลือที่ยังไม่ได้มีคำสั่งยกเลิก กทม.จะพิจารณาเป็นจุดๆไป

“หากถามว่าตรงนั้นทำไมขายได้ แต่ทำไมตรงนี้จึงขายไม่ได้ ก็คงเหมือนกับการสร้างถนนสายหนึ่งทำไมบางจุดสร้าง2เลน บางจุดสร้าง6เลน ซึ่งมันมีเหตุและผลของมัน เช่น พิจารณาจากถนนสายนี้คนใช้น้อยหรือใช้มาก นอกจากนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้พยายามกวดขันในพื้นที่ที่มีการยกเลิกจุดผ่อนผันและจัดระเบียบไปแล้ว ไม่ให้ผู้ค้าแอบกลับมาตั้งแผงขาย” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า

สำหรับประเด็นที่เครือข่ายแผงลอยไทยฯ อ้างว่าพื้นที่ที่กทม.จัดรองรับให้นั้น ไม่สามารถค้าขายได้ ขอชี้แจงว่า กทม.พยายามหาที่รองรับให้ผู้ค้ามาโดยตลาด แต่พื้นที่ในกรุงเทพฯ หาได้ไม่ง่ายเลย เห็นใจและเข้าใจผู้ค้า แต่ก็ต้องเห็นใจผู้ใช้ทางเท้าซึ่งมีมากกว่า 4 ล้านคนด้วย

 

 

 

ที่มา  มติชนออนไลน์