แพทยสภาจ่อเรียกหมอรีวิวเมจิกสกิน เค้นหามีส่วนรู้เห็นแค่ไหน หากไม่แค่ตักเตือน

ความคืบหน้าภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรีวิวโฆษณาสินค้าในเครือเมจิกสกิน พบว่าที่ผลิตภัณฑ์ยอดจำหน่ายสูง เพราะเป็นผลมาจากการตลาดที่ใช้ดารานักแสดงเป็นผู้รีวิวสินค้า และยังพบแพทย์มีส่วนในการรีวิว จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อ คือ นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษ์ หรือหมอบอนด์ จนเกิดคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการใช้วิชาชีพเหมือนกับไปขายของหาประโยชน์ เนื่องจากมีการใช้คำว่า นายแพทย์ ซึ่งเป็นหมอไปรับรองผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างรถ อะไรก็ตามยังไม่ค่อยเกี่ยว แต่กรณีเมจิกสกิน หรือสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความงาม หรืออ้างลดน้ำหนัก หรือฟอกผิวขาว ซึ่งทำไม่ได้ถือว่าผิด พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 และข้อบังคับแพทยสภาข้อที่ 44 ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ใด ถ้าต้องการแสดงตนเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ต่อสาธารณชนจะต้องไม่ใช้คำว่า นายแพทย์ แพทย์หญิง หรือคำอื่นใดหรือกระทำการไม่ว่าโดยวิธีใดๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความ ภาพ เครื่องหมาย หรือกระทำอย่างใดๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นแพทย์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

“สำหรับโทษนั้น ต้องบอกว่ามี 4 ระดับ คือ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ และเพิกถอน ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้กฎหมาย ก็มักจะเป็นว่ากล่าวตักเตือน แต่หากสอบสวนแล้วพบว่า มีส่วนรู้เห็น และรู้เรื่องก็จะเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่สำหรับกรณีหมอบอนด์ ก็ต้องมีการสอบสวนก่อน ซึ่งจะมีการประชุมกรรมการแพทยสภากลางเดือนพฤษภาคมนี้และจะแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเคสนี้ไม่น่าใช้เวลานาน เพียงแต่ต้องเชิญคุณหมอเข้ามาชี้แจงด้วย ” นพ.สัมพันธ์ กล่าว

กรรมการแพทยสภา กล่าวอีกว่า กรณีจะต้องสอบสวนให้รู้ให้ได้ว่า จริงๆ เจ้าตัวรู้ซึ้งแค่ไหน ว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผ่าน อย.หรือไม่ อย่างไร และมีส่วนเกี่ยวพันอย่างไร ซึ่งหากเจ้าตัวบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น และหลักฐานชี้ไปเช่นนั้นก็ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง แต่หากเขาไม่รู้จริงๆ ก็คงต้องว่ากล่าวตักเตือน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ ซึ่งทางแพทยสภาจะออกประกาศแจ้งเตือนแพทย์ทั่วประเทศ ผ่านเว็บไซต์ให้ระมัดระวังในการรีวิวสินค้า และห้ามใช้วิชาชีพแพทย์รีวิวหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าสุขภาพ เพราะจะขัดต่อข้อบังคับของแพทยสภา หรือกล่าวง่ายๆ ว่าหมอต้องไม่เอาวิชาชีพหมอไปขายของ ซึ่งวิชาชีพอื่นก็เช่นกัน ทั้งพยาบาล ทันตแพทย์ หรือแม้แต่เภสัชกร ก็ต้องพึงระวังทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงๆ เรื่องนี้แพทย์ทุกคนต้องทราบถึงจริยธรรมหรือความเหมาะสมในการปฏิบัติตัวตั้งแต่แรกหรือไม่ นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า การเรียนแพทย์เรียนหนักมาก เรียนมากมาย นอกจากเรียนแพทย์ เขาอาจไม่รู้ทุกมุมก็ได้ อย่างแพทย์จบใหม่ปีละ 3 พันคน คงมีไม่ถึง 100 คนจะรู้เรื่องหมด อย่างบางคนบอกว่าการใช้ยาสมเหตุสมผลควรบรรจุในการเรียนแพทย์ หรือการสื่อสารกับประชาชนก็ควรบรรจุในการเรียนแพทย์ จริงๆ ซึ่งเยอะไปหมด แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นแพทยสภาจะออกประกาศเตือนหมอว่า ลักษณะอย่างกรณีเมจิกสกิน อย่าทำ

เมื่อแพทย์หลายคนยังไม่ทราบว่าโฆษณาสินค้าแบบนี้ไม่ได้ เราจะเตือนประชาชนอย่างไร นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า คนไทยเชื่อคนง่าย ยิ่งเป็นแพทย์เป็นหมอนี่เชื่อเลย ซึ่งไม่ได้หรอก ตนมองว่าควรมีหน่วยงานกลางมาทำหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งอาจเป็นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้รับผิดชอบในการตอบคำถามเรื่องนี้หรือไม่ หรือควรประชาสัมพันธ์ให้หนัก ดังนั้น ขอให้ประชาชนพิจารณาดีๆ อย่าเชื่อรีวิว เพราะสินค้ารีวิวทำเพื่อประโยชน์ทางการค้ามากกว่า แต่หากสงสัยก็สอบถามไปยัง อย.

 

ที่มา : มติชนออนไลน์