ปชช. ไม่เห็นต้องยุติ! “อัศวิน” แถลงพับแผนยึดคืน “หอศิลป์” ให้มูลนิธิฯ บริหารถึงปี’64

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหาร กทม. หารือถึงกรณีการเข้าบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน แทนมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แต่ถูกกลุ่มศิลปินและนักวิชาการออกมาคัดค้านอย่างหนัก

ทั้งนี้หลังการหารือ พล.ต.อ.อัศวิน แถลงว่า ขณะนี้ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจผู้ว่าฯอัศวิน ไปแล้ว ถ้าพี่น้องประชาชนไม่เห็นด้วยกับการที่ กทม.จะเข้าปรับปรุงพื้นที่ภายในหอศิลป์ฯ ซึ่ง กทม.จำเป็นต้องดึงหอศิลป์ฯ กลับมาบริหารเอง เพราะขัดต่อระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครนั้น ทาง กทม.จะยุติแนวคิดดังกล่าว และปล่อยให้การบริหาร โดยมูลนิธิหอศิลป์ฯ เป็นตามบันทึกลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2564 เหลือระยะเวลาอีก 3 ปี กทม.จะรอให้ไปถึงระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาการมอบสิทธิให้มูลนิธิฯ บริหารก่อน แล้วค่อยหาแนวทางดำเนินการต่อไปในอนาคต ส่วนในเรื่องการบริหารเงินสนับสนุนว่า กทม.จะต้องให้เงินอุดหนุนแก่หอศิลป์ฯ ตามเอ็มโอยูหรือไม่นั้น ยังไม่เคยเห็นเอ็มโอยูดังกล่าวว่ามีเงื่อนไขว่าอย่างไรบ้าง

ผมก็มีแต่ความคิดที่ดีๆ ต้องการให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ที่บอกว่าหอศิลป์ฯ ขาดทุนปีละ 80 ล้านบาทนั้น ผมไม่เคยพูด ไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลมาจากไหน ผมไม่เคยพูด บางครั้งข่าวเขียนกันไปเรื่อยเปื่อย ให้ไปหาหลักฐานมาว่าผมพูดตรงไหน อย่างไร เพราะนักข่าวก็อัดเสียงตลอดอยู่แล้ว แต่ผมไปพูดตอนไหน เอาไปเขียนกัน ซึ่งการจะขาดทุนหรือได้กำไร ไม่เกี่ยวกับ กทม. แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการของมูลนิธิฯ ซึ่งหากสังคมไม่เห็นด้วย ผมก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมให้สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม.ยุติการนำเสนอแนวทางดำเนินการให้ กทม.บริหารหอศิลป์ฯ จนกว่าจะครบปี 2564 ค่อยมาว่ากันใหม่ ซึ่งผมได้ยืนยันผ่านเฟซบุ๊กไปแล้วเมื่อวานนี้” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า ขณะเดียวกัน ทราบว่าจะมีกลุ่มศิลปินเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สั่งให้ผู้ว่าฯ กทม.ยุติเรื่องดังกล่าว

“เมื่อวานนี้นายกฯ ก็ได้โทรบอกแล้วว่าอะไรที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ขอให้ตามใจประชาชนแล้วกัน จากนั้นได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กทันที” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการยุติดังกล่าวเพราะเกิดจากการเคลื่อนไหวของเหล่าศิลปินและประชาชนหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การดำเนินโครงการทุกอย่างจะต้องฟังเสียงจากประชาชน หากไม่เห็นด้วยจำเป็นต้องยุติ อาทิ การตัดถนน ฯลฯ หากมีการต่อต้านจากประชาชนและผู้สัญจร กทม.ก็จำเป็นยกเลิก เพราะการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.จะต้องทำเพื่อประชาชน ในเมื่อประชาชนไม่เห็นชอบก็ต้องหยุด อีกอย่างไม่ใช่คนดื้อดึง

ส่วนกระแสข่าวว่าการนำหอศิลป์ฯ กลับมาบริหารเองเพื่อเลี่ยงการจัดกิจกรรมทางการเมืองนั้น พล.ต.อ.อัศวิน แถลงว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้จากการเมือง ต้องเรียนว่าไม่ได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย คำนึงเพียงจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ภายในอย่างไร เพราะครั้งที่ลงพื้นที่ไปยังหอศิลป์ฯ เห็นว่ามีพื้นที่ควรใช้สอยให้เกิดประโยชน์ อาทิ การจัดหาโต๊ะ เก้าอี้ให้เด็กนั่ง เป็นต้น แต่สำนักวัฒนธรรมฯ แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เพราะอยู่ภายใต้การบริหารของมูลนิธิฯ ซึ่งก็ไม่เคยรู้มาก่อน จึงหารือกันว่าจะเข้าไปดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพียงเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ในปีงบประมาณ 2562 จะมีการนำเสนองบประมาณเพื่ออุดหนุนหอศิลป์ฯ หรือไม่นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการนำเสนองบประมาณของสำนักวัฒนธรรมฯ ส่วนการจะได้รับจัดสรรงบประมาณหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบจากสภา กทม.

“ยืนยันว่า ขณะนี้ประชาชนไม่อยากให้ กทม.เข้าไปดูแล เนื่องจาก กทม.ไม่มีประสบการณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ก็ให้ทางมูลนิธิฯ เป็นผู้ดำเนินการไปกว่าจะครบกำหนดปี 2564 ส่วนตอนนั้นผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นใคร ผมก็ไม่รู้แล้ว” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

เมื่อถามอีกว่า สภา กทม.ไม่เห็นชอบงบประมาณประจำปี 2561 เพราะเห็นว่าการให้เงินอุดหนุนหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้โครงสร้างของ กทม.นั้นเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ กทม.จะต้องออกข้อบัญญัติ กทม.มารับรองก่อน แต่ พล.ต.อ.อัศวิน จะปล่อยให้มูลนิธิฯ บริหารต่อไปจนถึงปี 2564 ระหว่างนี้จะดำเนินการให้เรื่องดังกล่าวถูกต้องอย่างไร พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ส่วนนี้จะต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม กทม.จะดำเนินการให้อยู่แล้ว แม้ฝ่ายกฎหมายบอกว่าไม่เห็นชอบหรือไม่ควรก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายหาแนวทางว่า กทม.จะทำอย่างไรถึงจะสามารถให้เงินอุดหนุนได้

“จากนั้นก็จะไปพิจารณาเหตุผล ยังยืนอีกครั้งอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผมโอเคทั้งหมด ไม่มีปัญหา ส่วนที่กลุ่มศิลปินจะให้มีการประชุมร่วมกันนั้น จะมอบหมายให้สำนักวัฒนธรรมฯ ร่วมพูดคุยหารือ ส่วนที่กลุ่มศิลปินระบุว่าการยุติเรื่องดังกล่าวไม่เชื่อมั่นต่อคำพูดของผมนั้น หากไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่อยากเชื่อเอง กระแสข่าวว่าไม่ให้เกียรติศิลปินแห่งชาตินั้น หากไม่ให้เกียรติ คงไม่ยกเลิกหรอก” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
เมื่อถามอีกว่า สาเหตุที่ยอมถอยเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อคะแนนเสียง ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.อาจลงสมัครเลือกตั้งครั้งหน้า ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่ทำไปเพราะความพึงพอใจต่อประชาชน

ที่มา: มติชนออนไลน์