“หมอธี” รับไม่ได้ ปมโกงค่าอาหารกลางวันเด็ก ลั่นหากพบสั่งย้ายทันที

“หมอธี” ลั่น รับไม่ได้ กรณีโกงเงินอาหารกลางวันเด็ก กร้าว สั่งย้ายทันที หากพบ ขรก.ศธ.ทุจริต เตือน คนปลุกปั่นให้ ขรก.เสียขวัญต้องหยุด เพราะ ปชช.ไม่เอาด้วย ย้ำ รบ.นี้ปราบโกง เผย สัมพันธ์ “บิ๊กป้อม” ชื่นมื่น ให้กำลังใจทำงาน

เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 19 มิถุนายน ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีทุจริตโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนทั้งที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ขอนแก่น ว่าเรื่องดังกล่าวมีหลายประเด็น แต่ประเด็นสำคัญที่ตนไม่ชอบและถือว่าผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรม คือการโกงเงินเด็ก ซึ่งเมื่อเช้านี้ได้ให้ทีมกฎหมายเข้าไปตรวจสอบว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวันอย่างไร เพราะตนอยากทราบว่ามีระเบียบปฏิบัติหรือไม่ เช่น กรณี จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผู้อำนวยการโรงเรียนถือเงินไปซื้อวัตถุดิบเอง ตรงนี้ทำได้หรือไม่ และกรณี จ.ขอนแก่น ที่ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (อีบิดดิ้ง) ซึ่งตนและนักกฎหมายก็มีคำถามว่า ถ้าใช้ระบบอีบิดดิ้งต้องมีระบบตรวจรับทุกวันหรือไม่ และใครเป็นคนดำเนินการ จะให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของเป็นคนดำเนินการหรือ ตรงนี้ต้องไปดูว่าทุกอย่างดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ส่วนประเด็นที่บอกว่าโครงการอาหารกลางวันจัดสรรให้เด็กรายละ 20 บาท เพียงพอหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าเท่าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่เพียงพอ ถ้าไม่โกงก็เพียงพอ คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องจัดการทุกอย่างให้เด็ดขาด ตนเอาจริงเอาจัง ได้สั่งให้ทีมที่ปรึกษาลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วและให้รายงานผลกลับมาเป็นระยะ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เรียกเลขาธิการ สพฐ.เข้ามาชี้แจงรายละเอียด ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดในรัฐบาลยุคนี้ แต่เกิดมานานแล้ว เรามาเอาจริงเอาจังและเปิดโปงในยุคนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้คาดโทษผู้อำนวยการเขตไว้แล้วตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนต รี(ครม.) เมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา

เมื่อถามว่าจะมีการสุ่มตรวจโรงเรียนหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ตอนนี้ส่งทีมกฎหมายและที่ปรึกษาลงพื้นที่สุ่มตรวจอยู่แล้วและให้รายงานมาเป็นระยะ ซึ่งมีเรื่องอื่นอีก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ และถึงไม่มีการสุ่มตรวจ ผู้ปกครองและครูก็รายงานเข้ามาอยู่แล้ว เพราะในยุคนี้หากมีอะไรไม่สุจริตก็จะมีการถ่ายรูปและโพสต์ในโซเชียล ฉะนั้น คนที่คิดจะทำเรื่องไม่สุจริตก็จะถูกจับได้ง่าย ทั้งนี้ หากในพื้นที่ใดพบว่ามีการทุจริตจะโดนสั่งย้ายทันที

“ผมอยากให้สังคมรับรู้ เพราะเรื่องนี้ผมก็รับไม่ได้ที่โกงเงินเด็ก กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่มีครูบาอาจารย์ ต้องเป็นตัวอย่าง ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานวันแรก ผมเคยบอกว่าอย่าขโมยเงินเด็ก แล้วก็มีการทำกันจริงๆ เราจึงต้องมาล้างบางกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาในเชิงระบบ ไม่ใช่เรื่องของเงินที่ไม่พอ รัฐบาลในทุกยุคสมัยก็ดูแลเด็กเป็นอย่างดี แต่เป็นเรื่องของคนที่หาผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ หรือเป็นจำนวนมากกับเด็ก ส่วนผลโพลที่ออกมาบอกว่ายุคนี้โกงกันสารพัด ผมไม่อยากให้ไปบิดเบือนและมองว่ายุคนี้มีแต่โกง แต่ยุคนี้จับโกงได้และเอาจริงเอาจัง ไปดูเรื่องอาหารกลางวันที่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่โกงกันทำมากี่ปีแล้ว สุดท้ายนี้ ผมฝากเตือนและอยากบอกว่าหลังจากที่เราเอาจริงและทำงานตรงไปตรงมา ก็มีขบวนการปล่อยข่าวว่าผมสร้างความกลัวให้กับข้าราชการ ผมว่ามันเลอะเทอะ คนทุจริตเท่านั้นที่กลัว คนสุจริตไม่ต้องกลัว ฉะนั้น อย่ามาเคลื่อนไหวกดดันให้เป็นประเด็นทางการเมืองหรือสังคม เพราะประชาชนไม่เอาด้วย” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

เมื่อถามว่าความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างไร หลังจากที่เคยวิจารณ์ประเด็นเรื่องนาฬิกาหรู นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ตนกับ พล.อ.ประวิตรไม่มีอะไร ยังพูดคุยทักทายกันดี ท่านยังแนะนำและให้กำลังใจตนในการแก้ปัญหาการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ

Advertisment

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์

Advertisment