เครือข่ายขอคืนป่าดอยสุเทพ ปรับแผนชุมนุม 30 มิ.ย.นี้ เน้นกิจกรรมในร่มส่งกำลังใจ 13 ชีวิต

เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ปรับแผนชุมนุมทวงคืนป่าดอยสุเทพ 30 มิ.ย.นี้ ยกเลิกกดดันหน้าศาลอุธรณ์ภาค 5 เน้นกิจกรรมในร่มร่วมส่งกำลังใจช่วยเหลือเยาวชนนักฟุตบอล-โค้ชทีมหมูป่า 13 ชีวิต

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่วัดล่ามช้าง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมแกนนำร่วมแถลงข่าวแนวการจัดการชุมนุมนัดรวมพลัง เอาดอยสุเทพคืนมา เอาป่าแหว่งคืนไป ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ที่หน้าสำนักงานศาลอุธรณ์ภาค 5 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

โดยนายธีระศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีข่าวการช่วยเหลือเยาวชนนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี่ รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งคนไทยทั้งประเทศต่างใจจดจ่อและส่งกำลังใจไปช่วย ขณะที่เครือข่ายก็รู้สึกกังวลกับข่าวดังกล่าว จึงหารือกันและมีมติจะปรับรูปแบบการชุมนุม จากการเคลื่อนขบวนไปที่หน้าศาลอุธรณ์ภาค 5 เป็นการไปรวมตัวกันที่หอประชุม โรงเรียนนวมินทราชูทิศพายัพ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงแทน เพื่อร่วมกันส่งพลังใจไปให้ทีมนักฟุตบอลและโค้ชทั้ง 13 คนได้ออกจากถ้ำและกลับสู่ครอบครัวโดยเร็ว

“แต่อย่างไรก็ตามเครือข่ายยังมีการจัดกิจกรรมหลัก เช่น การอ่านแถลงการณ์ การเสวนา จึงขอแจ้งถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่จะออกมาเคลื่อนไหวให้มาชุมนุมกันที่หอประชุม ภายในโรงเรียนนวมินทราชูทิศพายัพแทน ส่วนการเคลื่อนไหวใหญ่จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งเพื่อกำหนดวันเวลาในการจัดกิจกรรมในห้วงเวลาที่เหมาะสม”

นายธีระศักดิ์กล่าวอีกว่า ขณะที่การทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุดที่แต่งตั้งขึ้น คือ คณะอนุกรรมการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ กรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ และคณะอนุกรรมการศึกษาการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับเป็นป่าสมบูรณ์พร้อมแล้วที่จะสรุปข้อเสนอทั้งหมดส่งให้รัฐบาลตัดสินใจภายในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้

ด้านนายบัณรส บัวคลี่ โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ และสภาพจิตใจของประชาชนชาวไทยที่ใจจดจ่อกับการช่วยเหลือเยาวชนนักฟุตบอลและโค้ช เครือข่ายจึงปรับรูปแบบจากการชุมนุมกลางแจ้งเป็นการชุมนุมในร่มเพื่อความเหมาะสม ส่วนเหตุผล วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และเจตนาในการระดมคนเพื่อเคลื่อนไหวของเครือข่ายยังคงเดิม เพียงแต่ปรับรูปแบบจากบนถนนเป็นในร่ม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยรูปแบบยังคงมีพิธีกรรมสาปแช่ง พิธีเผาพริกเผาเกลือ และการจัดปราศรัยให้ข้อมูลกับประชาชน รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลบางแง่มุมที่ไม่เคยเผยแพร่ตามสื่อมาก่อน ซึ่งไม่สามารถประเมินตัวเลขได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวเครือข่ายได้จัดเสวนาสัญจรบ้านป่าแหว่ง ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดล่ามช้าง เพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนชาวเชียงใหม่ในเขตตัวเมือง โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมประมาณ 50 คน และในเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิง เดินทางจากอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มาปักกลดภาวนาหน้าสำนักงานศาลอุธรณ์ภาค 5 แล้ว เพื่อร่วมกันภาวนาส่งใจให้ตุลาการมีเมตตา หิริโอตัปปะ คืนป่าดอยสุเทพให้เมืองเชียงใหม่และประเทศไทย และบูชาผืนป่าดอยสุเทพ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจะมีการจัดชุมนุมเคลื่อนไหวทวงคืนป่าดอยสุเทพ โดยเจ้าหน้าที่พยายามมาเจรจาขอร้องให้ย้ายจุดออกไปจากข้างกำแพง แต่นายนิคม ยืนยันว่าเกาะกลาวถนนมีสันนูนเป็นหลังเต่า ไม่สามารถตั้งเต็นท์ได้ และย้ำว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนใดๆ เจ้าหน้าที่จึงกลับไป

 

ที่มา : มติชนออนไลน์