“เอมี่ อาเมเรีย” ยอมรับหลงทางผิด ขอกลับตัว ทนายตั้มชี้หลักฐานพิสูจน์ว่าไม่ได้ค้า

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จ.สมุทรสาคร เอมี่ อาเมเรีย พร้อม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้แถลงข่าวเปิดใจ หลังจากได้รับการปล่อยตัว หลังถูกพิจารณาคดีเสพยาเสพติด และศาลยกฟ้องในคดีร่วมกันมียาไอซ์และยาอีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น

โดยนายษิทรากล่าวว่า สำหรับคดีของเอมี่นั้น โดนทั้งหมด 2 ข้อหา ข้อหาแรก คือเสพยา ซึ่งเป็นคนละข้อหากับการค้ายาไอซ์จำนวน 70 กรัม โดยเอมี่รับสารภาพมาตั้งแต่แรกว่าเป็นผู้เสพ แต่ไม่ใช่ผู้ค้า โดยญาติเอมี่ ได้มาขอร้องให้ตนช่วย เงื่อนไขคือ ต้องสารภาพในสิ่งที่ทำ อันไหนที่ทำผิดก็ต้องสารภาพ คือ การเสพยา ไม่ได้กลับผิดเป็นถูก ส่วนข้อหาค้ายาเสพติดนั้น เป็นคนละจำนวนกับการเสพ โดยของเจอกันคนละที่ จนในที่สุดศาลก็ตัดสินแล้ว และพิสูจน์ว่า เอมี่ ยกฟ้องในข้อหาการค้ายาเสพติด โดยเน้นว่าเป็นการใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ว่าเอมี่ไม่ได้เกี่ยวร่วมกับแฟนหนุ่ม ตั้งแต่กระบวนการไปนำยาเสพติดมา จนนำยามาเก็บ ซึ่งศาลพิสูจน์แล้วว่า เอมี่ไม่ได้กระทำผิดจริง และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง จึงตัดสินยกฟ้องในคดีการครอบครองเพื่อจำหน่าย

“โดยจากนี้ เอมี่จะต้องรายงานตัวที่คุมประพฤติตามที่ศาลสั่ง และจะมีการตรวจเอมี่ ว่ามีการกลับไปเสพซ้ำหรือไม่ โดยเอมี่รับสารภาพว่าเสพยา ตามกฎหมายต้องบำบัด อันไหนที่ผิด เราก็รับว่าเสพจริง แต่เรื่องค้าไม่ได้ทำ ก็ต้องปฏิเสธไป เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำ และมีโทษหนัก ต่อจากนี้เอมี่จะไปช่วยโครงการพี่สอนน้องว่า หลงผิดอย่างไร ไปเล่าประสบการณ์ในเรือนจำต่อไป” ทนายตั้มกล่าว

ด้านเอมี่ เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า ดีใจที่ได้ออกมา อยู่ข้างในก็ไม่สบาย ยอมรับว่าผิดจริงที่ไปเสพ หนูไม่ใช่คนดี และจะไม่ทำอีกแล้ว หนูอาจจะไม่ดีที่เสพยา แต่ไม่เลวร้ายที่จะไปค้ายา กับแฟนที่เราคบอยู่ก็ไม่ทราบว่า ค้ายา

Advertisment

เมื่อถามว่า วินาที ที่โดนจับเป็นอย่างไร เอมี่กล่าวว่า ตกใจมาก อยู่ๆ ไม่คิดว่าตำรวจจะเข้ามา หนูแค่หลงผิดเข้าไปเสพ ตอนนั้น แค่อยากลอง แต่ถ้าใครเอามาให้แล้วหนูไม่ลอง ไม่เสพ ก็ไม่เป็นแบบนี้ ตอนนั้นหนูคงอยากลอง หนูไม่อยากโทษใคร ว่า แฟนเอามาให้ ขอโทษที่ตัวเอง และอยากขอโทษพ่อแม่ ผู้ใหญ่ที่เคยให้โอกาส และแฟนๆ ที่เคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ ที่ทำให้ผิดหวัง

“เข้าไปข้างใน เจอคนหลายอย่าง หลายแบบก็ต้องอยู่ให้ได้ ไม่เหมือนใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก แรกๆ เข้าไปก็ร้องไห้อย่างเดียว เพราะทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ไหว้พระสวดมนต์ จากนี้ก็ต้องไปเดินสายทำบุญ ส่วนเรื่องยาเสพติดหนูคงไม่ทำอีกแล้ว หนูสงสารแม่หนู และขอโทษที่ทำให้แม่ต้องลำบาก อนาคตก็จะกลับไปอยู่พ่อแม่ ที่ภูเก็ต เรื่องวงการบันเทิงคงไม่คิดอะไร เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ได้ อยากช่วยทนายตั้มทำงาน ช่วยงานมูลนิธิ ว่าสิ่งที่เราหลงผิดไป จบอนาคตเรายังไง” เอมี่กล่าว

เอมี่ กล่าวว่า ในส่วนของคดีก็ได้ทำใจเผื่อไว้บ้าง เพราะจำนวนยาที่อยู่ในคดีเป็นจำนวนมาก ตอนนี้สภาพร่างกายแข็งแรง กินได้ นอนหลับ จากนี้รู้แล้วว่า ให้ตายยังไงก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว เสียดายอนาคตที่ต้องเสียทุกอย่างไปเพราะยาเสพติด

แม่ ที่ผ่านมาแม่เข็ดที่ปล่อยให้ลูกไปอยู่คนเดียว ต่อจากนี้ก็จะไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว

Advertisment

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์