นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก.ยืนยันที่จะปรับขึ้นค่าโดยสารในวันที่ 22 เมษายน แม้จะมีการฟ้องร้องไปศาลปกครองกลางระงับขึ้นค่าโดยสาร แต่ขณะนี้ยังไม่คำสั่งใดจากศาลฯ ดังนั้น ขสมก.ต้องทำตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งในการปรับขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวเป็นตามข้อแนะนำของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
นายประยูรกล่าวว่า การขึ้นค่าโดยสารนั้นมีมติตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ซึ่งการปรับครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งรัฐ คือ ขสมก.และเอกชน ที่อยู่ไม่ได้ เพราะต้นทุนปรับสูงขึ้นไปมากแล้ว โดยขสมก.ได้ทำความเข้าใจกับผู้โดยสาร เช่น ให้ข่าวสารผ่านสื่อมวลชน ติดประกาศบนรถเมล์ขสมก.ทุกคัน และขณะนี้เตรียมพร้อมและอบรมพนักงานเก็บค่าโดยสารแล้ว
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
นายประยูรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ค่าโดยสารของ ขสมก. ทยอยปรับเป็น 2 ช่วง คือ ครั้งแรกในวันที่ 22 เมษายน และอีกครั้งในวันที่ 22 เมษายน 2563 ประกอบด้วย รถเมล์ร้อนปรับขึ้นเป็น 8 บาท จาก 6.50 บาท และปรับอีกครั้งวันที่ 22 เมษายน 2563 เป็น 10 บาท ส่วนรถเมล์แอร์ (ครีมน้ำเงิน) เป็น 12-20 บาท จาก 10-18 บาท และปรับอีกครั้งวันที่ 22 เมษายน 2563 เป็น 13-21 บาท ส่วนรถเมล์แอร์จะปรับขึ้นเป็น 13-25 บาท จาก 11-23 บาท และปรับอีกครั้งวันที่ 22 เมษายน 2563 เป็น 14-26 บาท สำหรับรถเมล์ร่วม ขสมก. ซึ่งเป็นรถของเอกชนจะปรับขึ้นค่าโดยสารเพียงครั้งเดียวในวันที่ 22 เมษายนในอัตรา 1 บาท คือ รถเมล์ร้อน เป็น 10 บาท จาก 9 บาท ส่วนรถแอร์เป็น 14-26 บาท จาก 13-25 บาท
ด้านกองสื่อสารองค์กรและการตลาด สำนักอำนวยการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า แจ้งปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางหมวด 2 และหมวด 3 ของ บขส. และรถร่วมฯ ตามมติคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 โดยมีผล 22 เมษายน เวลา 00.01 น.เป็นต้นไป
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่ปรับขึ้นรถโดยสาร บขส. และรถร่วม บขส.จะปรับขึ้นไม่เกิน 10% แบ่งระยะทางเป็น 4 ช่วง เช่น ระยะทางไม่เกิน 40 กิโลเมตรแรก เดิม 0.49 บาท/กิโลเมตร ปรับเป็น 0.53 บาทต่อกิโลเมตร , ระยะทาง 40-100 กิโลเมตร เดิม 0.44 บาท/กิโลเมตร ปรับเป็น 0.48 บาทต่อกิโลเมตร , ระยะทาง 100-200 กิโลเมตร เดิม 0.40 บาท/กิโลเมตร ปรับเป็น 0.44 บาทต่อกิโลเมตร และระยะทางเกิน 200 กิโลเมตร เดิม 0.36 บาท/กิโลเมตร ปรับเป็น 0.39 บาทต่อกิโลเมตร อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ -ภูเก็ต รถวีไอพี เดิมค่าโดยสาร 913 บาท ปรับขึ้นเป็น 991 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ –นครราชสีมา เดิมค่าโดยสาร 191 บาท ปรับขึ้นเป็น 209 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เดิม 313 บาท ปรับขึ้นเป็น 340 บาท เป็นต้น
