นพ.ปิยะสกลเชียร์ปิดผับ-บาร์ สถานที่เสี่ยงทั่วประเทศ คุมโควิด-19 ไม่ให้ลุกลาม

วันนี้ (19 มีนาคม 2563) ศ. คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการแถลงข่าวหัวข้อ “รวมสมอง ร่วมใจ สู้ภัย COVID-19” จัดโดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประทศไทย และสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย 

นพ.ปิยะสกล แสดงความเห็นต่อมาตรการปิดสถานที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า เป็นมาตรการที่เข้มข้น แต่ควรจะต้องเข้มข้นกว่านี้ โดยรัฐบาลควรสั่งปิดทั่วทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น

“ผมว่าจะต้องเข้มข้นกว่านี้ จะเห็นว่ารัฐบาลประกาศปิดเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ได้ประกาศปิดในต่างจังหวัด ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ตรงนี้จะเป็นปัญหา ถ้าปิดโรงเรียน สถานศึกษา แต่คนยังไปเที่ยวผับอยู่ แล้วจุดนั้นอาจจะเกิดปัญหาขึ้น ความจริงควรจะต้องปิดทั้งประเทศ ถึงจุดหนึ่งที่เราคุมไม่ได้ เพราะเราไม่ร่วมมือกัน อาจจะต้องปิดชายแดน เหมือนที่มาเลเซียและสิงคโปร์ปิด ผมไม่อยากให้ถึงจุดนั้น ถ้าเราร่วมมือกันเต็มที่ ถ้าเรามีวินัย ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เราจะไม่ถึงจุดนั้นได้”

นพ.ปิยะสกล กล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งขึ้นสูง จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประชาชนชาวไทยจะต้องร่วมมือร่วมใจกันยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส ชะลอให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทีละน้อย โดยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์และภาครัฐ และไม่พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

กรณีระยะการระบาดที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคม ผู้สื่อข่าววถามว่า ตอนนี้คิดว่าประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 แล้วหรือยัง นพ.ปิยะสกลตอบว่า ระยะไม่สำคัญ ไม่ว่าจะอยู่ในระยะไหนทุกคนก็ต้องดูแลตัวของตามวิธีการที่แนะนำให้ดีที่สุด ไม่ต้องรอให้เข้าระยะที่ 3 จึงจะดูแลตนเอง ถ้าหากไม่ดูแลตัวเองตั้งแต่ระยะที่ 2 ก็ยิ่งจะทำให้การระบาดเข้าสู่ระยะ 3 เร็วขึ้น