ศบค.เผยอาการหนักก่อนเสียชีวิต 2 ราย “โควิด” ติดกันเองในบ้านพุ่ง 56%

ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) หรือ ศบค.ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า สถานการณ์ของประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อขณะนี้ 2,518 ราย หายป่วย 1,135 ราย จังหวัดที่ผู้ติดเชื้อ 68 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 ราย รวม 35 ราย

ทั้งนี้ 2 เสียชีวิตรายที่ 34 ชายไทยอายุ 46 ปี ทำหน้าที่ในโรงรับจำนำ โรคอ้วน และมีประวัติอาศัยกับแม่และน้องสาว ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยัน เสียชีวิต 9 เม.ย. รายที่ 35 ชายไทยอายุ 65 ปี อาชีพพนักงานทำความสะอาดใน กทม. เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกอ่อนเพลีย กลับบ้านที่ จ.พะเยา เสียชีวิต 10 เม.ย.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 45 คน กลุ่มแรก มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน 23 ราย ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ภูเก็ต 3 ราย กลุ่มสอง สถานที่ที่มีผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 9 คน คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ อังกฤษ 2 ราย ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด 1 ราย บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2 ราย กลุ่มสาม อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 4 ราย

ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างประเทศ และเข้า state quarantine จาก กทม.1 ราย และสงขลา เป็นผู้ที่เดินทางกลับอินโดนีเซีย 8 ราย ทั้ง 45 ราย กระจายใน กทม. 17 ราย สงขลา 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ภูเก็ต 6 ราย ปทุมธานี 3 ราย ชลบุรี 2 ราย ปราจีนบุรี 1 ราย พัทลุง 1 ราย

Advertisment

การกระจายไปต่างจังหวัด ยังไม่น่าไว้วางใจ เกิดขึ้นจากคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ส่วน กทม.และนนทบุรีมีจำนวนลดลง จังหวัดที่มีความชุกของโรคสูง อีก 1 จังหวัด คือ ชลบุรี หลังวันที่ 17 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อ ทางจังหวัดมีมาตรการปิดสถานบันเทิง และเงียบหายไป กระทั่ง 22 มี.ค. พุ่งพรวดทีเดียว 14 ราย หมายความว่าคนติดเชื้อแล้วยังไม่มีอาการ จึงเจอทีเดียว 14 ราย จึงต้องมีมาตรการจากผู้ว่าฯ ปิดเกาะ ปิดห้าง ปิดสวนสาธารณะ 26-29 มี.ค. ตัวเลขลดลง แต่กลับมีผู้ป่วยสัมผัสอยู่ที่บ้าน จึงทำให้ตัวเลขต้นเดือน เม.ย. จึงเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ต้องมีการปิดหาด พัทยามีทั้งนิคมอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยวเป็นความยากของจังหวัด
ทางกรมควบคุมโรครายงานว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา 4-10 เม.ย. มีผู้ป่วย 495 คน ทั่วประเทศ แยกออก 144 ราย เฉพาะกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อน พบว่าติดจากครอบครัว 81 ราย เป็น 56% แบ่งเป็นสามีภรรยา 35 คน บิดามารดา 20 คน ญาติอื่นๆ 17 คน บุตร 9 คน ติดต่อจากสถานที่ทำงนา 33 ราย คิดเป็น 23% แบ่งเป็น สถานที่ทำงาน 22 คน ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง 6 คน ผู้มารับบริการ ติดต่อประสานงาน 5 คน ติดต่อจากกิจกรรมรวมกลุ่ม 26 ราย คิดเป็น 18% การพบปะเพื่อน คนรู้จัก 26 คน ส่วนใหญ่รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม อื่นๆ 4 ราย 3% สัมผัสร่วมยานพาหนะ 2 ราย สัมผัสในชุมชน 2 ราย

“ผู้ป่วยใหม่แต่ละวัน ต้องชม กทม.แนวโน้มของ กทม.พีคสูงสุดอยู่ในวันที่ 29 มี.ค. และค่อยๆ ลงมา ทำให้ตัวเลขกดลงมาจากหลักร้อยเป็นหลักสิบ แต่ของทางจังหวัดต้องเห็นใจ เพราะมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม สงกรานต์นี้จะกลับไปอยู่ที่บ้าน นั่งพูดคุยกัน ดื่มกัน มีโอกาสติดโรคได้ทันที เราเน้นย้ำว่าไม่อยากให้ป่วย แม้อายุน้อย ตายได้เหมือนกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการฉุกเฉินด้านความมั่นคง รายงานว่า 11 เม.ย. มีคนออกนอกสถาน 1,065 คน ลดลงจากวันที่ 10 เม.ย. 87 คน ชุมนุมมั่วสุม 109 ราย

Advertisment

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัย วันที่ 11 เม.ย. จำนวน ที่รับเข้ามา 14,427,500 ชิ้น ส่งไปแล้ว 11,538,400 ชิ้น อยู่ระหว่างการจัดส่ง 2,889,100 ชิ้น แบ่งเป็น โรงพยาบาล 1,729,000 ชิ้น