กทม. ลุยยกซากรถยนต์เก่า 315 คัน อย่างต่อเนื่อง

ซากรถยนต์เก่า

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ติดตามการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะในพื้นที่เขตพระนคร ซึ่งการลงพื้นที่เป็นการติดตามเรื่องการยกซากรถยนต์อย่างต่อเนื่อง

เพื่อติดตามเรื่องการยกซากรถยนต์ในกรุงเทพฯ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เข้มงวดปัญหาการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก เนื่องจากกีดขวางการจราจร มีผลด้านความปลอดภัยและในส่วนของความมั่นคงจากการก่อวินาศกรรม

โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งมาว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีประมาณ 400 คัน ได้ดำเนินการยกซากรถเคลื่อนย้ายแล้ว 85 คัน คงเหลือ 315 คัน ในส่วนของพื้นที่เขตพระนครนั้น มีซากรถ 31 คัน ดำเนินการยกซากรถเคลื่อนย้ายแล้ว 12 คัน คงเหลือ 19 คัน

ในวันนี้สำนักงานเขตพระนครจัดเก็บซากรถอีกจำนวน 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์โตโยต้า สีดำ และรถยนต์ฮุนได สีเขียว ไม่มีป้ายทะเบียน โดยใช้กำลังสนับสนุนเป็นรถยก 1 คัน และรถบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้ายซากรถ 2 คัน จากกองโรงงานช่างกล ซึ่งจะนำซากรถดังกล่าวไปจัดเก็บเป็นของกลางซากรถยนต์ที่บริเวณสวนพระปกเกล้า ถนนจักรเพชร คงเหลือซากรถอีก 17 คัน และจะทยอยเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ให้ฝ่ายเทศกิจจาก 50 สำนักงานเขต จัดตารางแผนงานโดยสำนักเทศกิจในการดำเนินการจัดเก็บซากรถในพื้นที่กรุงเทพฯต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งต้องมีหารือการประสานงานในส่วนของรถยก สถานที่กลางจัดเก็บซากรถ การจัดสรรงบประมาณและการจัดหาอุปกรณ์ให้ครบถ้วน

มาตรการดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่หลายหน่วยงาน อาทิ กทม. และตำรวจนครบาล โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ในการเข้ามาจัดการดูแล

สำหรับ กทม.ได้มีการมอบนโยบายการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยได้สั่งการให้เทศกิจทุกสำนักงานเขตดำเนินการสำรวจปัญหาในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งมาว่ามีประมาณ 400 คัน และอาจมีมากกว่านี้ จึงได้กำชับให้เทศกิจดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม

รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนที่เป็นเจ้าของซากรถที่จอดตามสถานที่สาธารณะกีดขวางทางจราจรและสร้างความเดือดร้อน ให้เคลื่อนย้ายซากรถดังกล่าวเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ หากประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต ซึ่งหากมีการจับปรับเกิดขึ้น ประชาชนผู้แจ้งจะได้ส่วนแบ่งค่าปรับดังกล่าวครึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับการแจ้งเบาะแสการขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า ซึ่งอัตราการเปรียบเทียบปรับเป็นไปตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ และบทกำหนดโทษ มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจะกำหนดอัตราเปรียบเทียบปรับเบื้องต้นไว้ที่ 2,500 บาท ตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากรถยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กทม.จะนำไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป