น้ำพองทะลัก! ชาวบ้านแอบดึงกระสอบทรายจากประตูระบายน้ำ กลัวถูกท่วมที่นา จนท.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้นอีกจาก 50 ล้าน ลบ.ม. เป็น 54 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน โดยมีผลมาตั้งแต่เวลา 12.00 น. เมื่อวันที่ ( 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำพองสูงขึ้นจากเดิมอีก 30 เซนติเมตร ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านที่ตั้งติดกับแม่น้ำพองในพื้นที่ อ.น้ำพอง และ อ.เมืองขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บริเวณบ้านบึงเนียม ช่วงสะพานข้ามแม่น้ำพอง พบว่าระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไหลเข้าท่วมชุมชน ชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมาวางกั้นทางน้ำไหลเพื่อให้ลงสู่แม่น้ำพองและไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ขณะที่กรมทางหลวง นำป้ายห้ามผ่านมาติดตั้งไว้บริเวณคอสะพานเพื่อแจ้งเตือนรถที่จะกลับรถในจุดดังกล่าวห้ามใช้เส้นทางโดยเด็ดขาด เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่า 1.20 เมตร

ขณะที่หมู่บ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น น้ำได้ไหลเข้าท่วมเป็นบางจุด ชาวบ้านในหมู่บ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทรายไปวางเรียงตามแนวตลิ่งของแม่น้ำพองเนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 30 ซม.เช่นกัน ส่วนพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังต่อเนื่อง ทั้งบ้านบึงอีเฒ่า ,บ้านหนองแก และบ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง ระดับน้ำยิ่งเพิ่มความสูงขึ้น เหลือเพียง 15 เซนติเมตร ก็จะท่วมสูงเท่ากับน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ขณะที่นาข้าวของชาวบ้านที่อยู่บริเวณโดยรอบถูกน้ำท่วมทั้งหมด

นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชลประทานสำรวจแนวคันกั้นน้ำตลอดแนวแม่น้ำพอง ซึ่งพบว่าชาวบ้านในเขต ต.บึงเนียม แอบลักลอบดึงกระสอบทรายที่เจ้าหน้าที่นำมาปิดกั้นประตูระบายน้ำ ในพื้นที่ ต.บึงเนียมออก ทำให้น้ำจากแม่น้ำพองไหลเข้ามาที่ลำห้วยกุดกว้าง และไหลเข้าห้วยพระคือ ซึ่งจะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมเขต พื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของเมืองขอนแก่น

“สาเหตุที่ชาวบ้านลักลอบดึงกระสอบทรายออกจากประตูระบายน้ำนั้น เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะท่วมต้นข้าวได้รับความเสียหาย โดยวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกับการเยียวยาและการชดเชยของทางราชการที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบและขั้นตอนของการดำเนินงานทั้งหมด”

 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์