หมอพร้อม รับลงทะเบียนวัคซีนรอบประชาชนทั่วไป 2 หมื่นคน/วินาที

หมอพร้อม

สาธิต รมช.สาธารณสุข ยืนยันแอป หมอพร้อม เปิดจองคิวฉีดวัคซีนโควิดรอบปะระชาชนทั่วไป 31 พ.ค. เริ่มฉีด 1 ส.ค. “กทม.” ผ่านร้านสะดวกซื้อ

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธาณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมชี้แจงการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป ว่า ที่ประชุมมีมติเปิดเพิ่มการลงทะเบียนวัคซีนให้มากขึ้น โดยในกลุ่มประชาชนทั่วไปสามารถเริ่มลงทะเบียนจองการฉีดวัคซีนในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้ และเริ่มฉีดในเดือน 1 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยการจองผ่านแอปฯ หมอพร้อม รองรับได้วินาทีละ 20,000 คน

สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ที่จะสิ้นสุดการลงทะเบียนใน วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สามารถลงทะเบียนต่อได้ และจะไปฉีดตามคิวที่ลงทะเบียน เช่นเดียวกับกลุ่มคนทั่วไป การลงทะเบียนเหมือนกันทุกจังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ที่จัดรูปแบบการลงทะเบียนเองผ่านเว็บเบส และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน แอปพลิเคชั่นและไลน์หมอพร้อม และไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลเนื่องจาก มีระบบหลังบ้าน เชื่อมต่อหมอพร้อมอยู่แล้ว โดยหมอพร้อมจะเป็นที่รวบรวมข้อมูลการฉีด ติดตามอาการ และ การออกใบรับรองการฉีด

รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ.กล่าวด้วยว่า เรื่องการลงทะเบียนออนไซต์ (on-site registration) ขึ้นกับแต่ละจังหวัด และพื้นที่ในการบริหารจัด ว่าจะมีหรือไม่ ส่วนการจัดการวัคซีนเป็นกลุ่ม ให้จังหวัดดำเนินการจัดวิธีการฉีดเอง อาจเป็นความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลรัฐ และ รพ.เอกชน โดยให้ รพ.รัฐ รับรองความปลอดภัย สถานที่ต้องมีมาตรฐาน ทั้งแพทย์พยาบาลประจำ อุปกรณ์ช่วยชีวิต และสามารถนำส่ง หากมีอาการข้างเคียงรุนแรงและ รพ.เอกชน อาจเป็นคนฉีด ซึ่งขณะนี้การจัดสรรวัคซีนแบบกลุ่มมีความพร้อมกระจายให้หน่วยงานแล้ว แต่เหลือเพียงหน่วยงานติดต่อประสาน รพ.เอกชน หรือ รพ.รัฐเป็นผู้ฉีด

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนแบบกลุ่ม ต้องทำในสถานพยาบาลขนาดใหญ่ ระดับชุมชนขึ้นไป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไม่สามารถฉีดได้ เนื่องจากยังเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ต้องมีการสังเกตอาการตามมาตรฐาน และติดตามอาการ 30 นาที

ส่วนการจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนโควิด -19 โดยยึดหลักพื้นที่ระบาด พื้นที่เศรษฐกิจท่องเที่ยว และ กลุ่มอาชีพเสี่ยง โดยแต่ละจังหวัดจะได้สัดส่วนของวัคซีนไม่เท่ากัน เนื่องจากขึ้นกับ สถานการณ์การระบาดโรค ในแต่ละจังหวัด หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์การจัดสรรวัคซีนที่ไม่เท่าเทียม

เช่น ใน จ.ภูเก็ต และ จ.บุรีรัมย์ พร้อมยืนยันการจัดสรรวัคซีน เอาหลักการแพทย์มานำการเมือง เช่น กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ระบาดหนัก ต้องได้รับการจัดสรรวัคซีน โดยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่จะมาถึงก่อนปลายเดือนนี้ 1.7 ล้านโดส จะให้กรุงเทพฯ เป็นหลัก เพื่อฉีดให้เร็วที่สุด

“ยืนยันการชี้แจงเพิ่มช่องทางการฉีดวัคซีน ไม่ต้องให้ประชาชนสับสน เพราะมีระบบหมอพร้อม รองรับไว้ กรณีมีประชาชนมาลงทะเบียนจำนวนมาก ที่ผ่านมา ไม่ระบบเคยล่ม แต่ยอมรับว่ามีปัญหาการประสานร่วมกับ รพ.เอกชน ทำให้เกิดปัญหาการลงทะเบียนที่ รพ.เอกชน เปิดรับจองฉีดวัคซีน แต่รายชื่อถูกดีดออก และไม่สามารถลงทะเบียนได้ ขณะนี้ได้พยายามแก้ไขปัญหาไปละขั้นตอน มั่นใจการเปิดลงทะเบียน 31 พ.ค.นี้ จะไม่เกิดปัญหา สามารถรองรับได้ 20,000 คนต่อวินาที” นายสาธิต กล่าว

ข้อมูล จาก ศบค. ระบุว่า ระบบบริหารจัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ยังรับวัคซีนไม่ครบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิดที่มีโอกาสัมผัสผู้ป่วย ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัว ประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค ชาวไทยที่จะไปศึกษา/ทำงานที่ต่างประเทศ คณะทูตานุทูต/องค์กรระหว่างประเทศ ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ชาวต่างชาติและแรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไป

สำหรับจุดบริการวัคซีน ขณะนี้ในต่างจังหวัด ฉีดได้จำนวน 779,868 คนต่อวัน จุดฉีดวัคซีนในโรงพยาบาล 993 แห่ง โรงพยาบาลสนาม 261 แห่ง On-site Registration 221 แห่ง ส่วนกรุงเทพมหานคร 80,000 คนต่อวัน โดยความร่วมมือกับหอการค้า 25 จุด โรงพยาบาล 126 แห่ง หน่วยบริหารเชิงรุก หน่วยบริการของ อว.และ ปกส. และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข