หมอยง เผยฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม บูสเตอร์ด้วย “ไวรัลเวกเตอร์” ภูมิต้านทานสูงกว่าฉีดวัคซีน mRNA 2 เข็ม
วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึง การฉีดวัคซีนโควิด-19 “ลูกผสม” ระหว่างจีนกับชาติตะวันตก ระบุว่า
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
การศึกษาวิจัยที่ศูนย์ฯ กำลังทำอยู่เพื่อปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับทรัพยากรและวัคซีนที่มีอยู่ จะเห็นว่าการติดเชื้อโดยธรรมชาติจะมีภูมิต้านทานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 หน่วย การให้วัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ระดับเฉลี่ย 100 หน่วย ถ้าฉีดวัคซีนไวรัลเวกเตอร์ อย่าง แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ห่างกัน 10 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ที่ 900 หน่วย แต่ถ้าให้วัคซีนสลับกัน โดยให้วัคซีนเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัลเวกเตอร์ ที่ 3-4 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะสูงที่ 700 หน่วย
ขณะที่ การฉีดวัคซีน mRNA จำนวน 2 ครั้งห่างกัน 3 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะขึ้นมาสูงถึง 1,700 หน่วย แต่การฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีนไวรัลเวกเตอร์ อย่างที่บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้าทำอยู่ในขณะนี้ พบว่า ภูมิต้านทานเฉลี่ยสูงขึ้นมาเป็น 12,000 หน่วย
การวัดนี้เป็นระดับภูมิต้านทาน ที่กำลังทำการวิจัยแนวลึกถึงความสามารถในการขัดขวางไวรัส ในแต่ละสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ด้วย จากข้อมูลที่ผ่านมา สายพันธุ์เดลต้าหลบหลีกระบบภูมิต้านทานจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงเพิ่มขึ้น จนกว่าจะมีวัคซีนที่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด หรือวัคซีนในรุ่นที่ 2
ทางศูนย์ฯ มุ่งมั่นในการทำการศึกษาวิจัย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับคนไทย เป็นงานวิชาการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง และนโยบายใด ๆ ทั้งสิ้น