กระทรวงสาธารณสุข แจ้งสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ปรับข้อสั่งการการตรวจโควิดด้วย แอนติเจน เทสต์ คิท หากผลเป็นบวกให้ถือเป็น “กลุ่มสงสัยว่าจะป่วย”
วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นพ.ศุภโชค เกิดลาภ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ตนเกิดข้อสงสัยว่าการรายงานยอดผู้ติดเชื้อในวันนี้ (28 ก.ค.) กว่า 16,000 ราย อาจจะไม่ใช่ยอดผู้ติดเชื้อที่แท้จริง
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
เนื่องจากยังมีผู้ป่วยที่ตรวจหาจาก Antigen test kit แล้วผลเป็นบวก แต่ในเอกสารบันทึกข้อความ ส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ถึงนโยบายการบริหารจัดการที่ได้ขอให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในข้อ 5 ระบุว่าผู้ที่ใช้วิธีการตรวจดังกล่าว ยังไม่นับว่าเป็นผู้ติดเชื้อ
ล่าสุด มติชนรายงานว่า นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการออกหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ระบุว่า โดยหลักการที่มีคำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านั้น การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องทำด้วยวิธี RT-PCR ใช้เวลารอผลค่อนข้างนาน ทำให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างล่าช้า
ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น จึงมีนโยบายให้ตรวจแบบแอนติเจน เทสต์ คิท หรือเอทีเค (ATK) มาช่วย ถ้าผลบวกก็ให้พิจารณาทำโฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation) ได้เลย แต่บางกรณีไม่ใช่รักษาที่บ้านได้ อาจต้องรักษาในชุมชนหรือโรงพยาบาล ซึ่งกลุ่มนี้ต้องมีการยืนยันด้วยวิธีการทำอาร์ที-พีซีอาร์ โดยจะเรียกว่า Probable case หรือกลุ่มสงสัยว่าจะเป็น/ป่วย แต่อาจจะไม่ได้ป่วยก็ได้
ดังนั้น จะมีการแยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มสงสัยว่าจะเป็น/ป่วย คือ Probable case ส่วนอีกกลุ่มที่ต้องทำอาร์ที-พีซีอาร์และผลเป็นบวก จะเรียกว่า Confirm case หรือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจน วันนี้ (28 ก.ค.64) ได้ลงนามประกาศแจ้งไปยังผู้ตรวจราชการ สธ.และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แล้ว
สำหรับหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลงข้อสั่งการที่ชัดเจนขึ้น โดยระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงข้อสั่งการข้อ 5 ให้ยกเลิกการทำ Active Case Finding (ACF) โดยการทำ RT-PCR และให้ใช้ Antigen test self-test Kits แทนในการคัดกรองเบื้องต้น
โดยกรณีที่ผู้ป่วยพบผลเป็นบวกจะเป็นกลุ่ม Probable case ซึ่งยังไม่นับเป็นกลุ่มป่วย ไม่ต้องรายงานในระบบการรายงานโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในการปฏิบัติตามที่กรมวิชาการกำหนด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงขอยกเลิกคำสั่งข้อ 5 ตามข้อสั่งการข้างต้น และให้ใช้ข้อความแทน ดังนี้
ข้อ 5 การดำเนินการ Active Case Finding (ACF) ให้ดำเนินการดังนี้
- 5.1 ปรับให้ใช้ Antigen test Kit (ATK) เข้ามาใช้เสริมหรือแทน RT-PCR ในกรณีที่มีข้อจำกัด
- 5.2 กรณี Antigen test Kit (ATK) ให้ผลบวกให้รายงานเป็น Probable case ตามระบบรายงานที่กำหนด และหากเคสดังกล่าวได้รับการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ให้รายงานผู้ป่วยยืนยันเป็น confirmed case ต่อไป