ในประเทศ

ศบค.พบเด็ก 1 ขวบเสียชีวิตจากโควิด กทม.ติดเชื้อสะสมต้นปีทะลุแสนคน

เด็ก 1 ขวบ เสียชีวิต

ศบค.เผย กทม.ยอดติดเชื้อโควิดสะสมตั้งแต่ต้นปี 2565 พุ่งเกินกว่า 1 แสนรายแล้ว ทิ้งห่างจังหวัดอื่นหลายเท่าตัว และวันนี้พบเด็ก 1 ขวบเสียชีวิตจากโควิดอีก 1 ราย มีประวัติเป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด เผยเดือน ก.พ.แห่เดินทางเข้าไทยเกิน 2 แสนราย พบติดโควิดกว่า 4,500 คน รัสเซียยังมามากสุด

วันที่ 1 มีนาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของรัฐบาล รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มีผู้ป่วยรายใหม่ 20,420 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 688,912 ราย หายป่วยแล้ว 505,152 ราย และเสียชีวิตสะสม 1,278 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,912,347 ราย หายป่วยแล้ว 2,673,646 ราย เสียชีวิตสะสม 22,976 ราย

Advertisment

ฉีดเข็ม 1 แตะ 77% ของประชากร

ส่วนผู้มารับวัคซีน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 40,779 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 20,367 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 180,039 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 123,809,855 โดส

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 53,578,024 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,739,006 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 20,492,825 ราย

กทม.ยอดติดโควิดสะสมทะลุ 1 แสนราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันนี้ อันดับ1.เป็นกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้น 2,752 ราย รวมตัวเลขสะสมตั้งแต่ต้นปี 2565 วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมของ กทม.พุ่งเกิน 1 แสนรายแล้ว โดยตัวเลขสะสมล่าสุดอยู่ที่ 101,734 ราย

วานนี้ (28 ก.พ. 65) ศบค.แถลงว่า มี 10 เขตในพื้นที่ กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดมากที่สุด โดยเฉพาะเขตหลักสี่ จอมทอง และห้วยขวาง และยังพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์โรงเรียนมากที่สุดถึง 18 คลัสเตอร์

Advertisment

รองลงมาเป็นนนทบุรี 1,292 ราย ชลบุรี 1,197 ราย สมุทรปราการ 1,060 ราย นครศรีธรรมราช 719 ราย ภูเก็ต 678 ราย ระยอง 593 ราย นครปฐม 592 ราย พระนครศรีอยุธยา 554 ราย และนครราชสีมา 538 ราย

สลด! พบเด็ก 1 ขวบเสียชีวิตอีก 1 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิต 43 รายในวันนี้เป็นชาย 25 ราย หญิง 18 ราย เป็นคนไทยทั้ง 43 ราย ค่ามัธยฐานตั้งแต่เริ่มป่วยจนกระทั่งเสียชีวิตอยู่ที่ 7 วัน และพบเชื้อวันเสียชีวิต 2 ราย โดยผู้เสียชีวิตวันนี้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 31 ราย คิดเป็น 72% อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรัง 9 ราย คิดเป็น 20% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 5%

และวันนี้มีเด็กชายอายุ 1 ขวบ เสียชีวิตด้วย 1 ราย คิดเป็น 3% มีประวัติเป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด

และเมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ใน กทม. 5 ราย ภาคเหนือที่ตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก เชียงราย กำแพงเพชร ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ รวม 14 ราย ภาคใต้ที่กระบี่ ระนอง สงขลา ชุมพร ปัตตานี พังงา ยะลา สตูล สุราษฎร์ธานี รวม 13 ราย ภาคกลางและตะวันออกที่สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี ลพบุรี และสระบุรี รวม 7 ราย

นอกจากนี้มีที่สมุทรสาคร 2 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากโรคมะเร็ง 4 ราย ภาวะอ้วน 2 ราย โรคไต 7 ราย ภาวะติดเตียง 1 ราย และส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากคนรู้จัก ครอบครัว และอาศัยอยู่ในพื้นที่ระบาด

เดือน ก.พ.แห่เข้าไทย 2 แสนราย ติดโควิด 4,597 คน

ขณะที่จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศสะสมตั้งแต่วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 203,970 ราย พบติดเชื้อโควิด 4,597 ราย และประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุดยังเป็นรัสเซีย 35 ราย เยอรมนี 15 ราย สหราชอาณาจักร 11 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) 10 ราย อินโดนีเซีย 10 ราย ฝรั่งเศส 9 ราย เป็นต้น

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรวม 437,070,803 ราย อาการรุนแรง 74,495 ราย รักษาหายแล้ว 368,190,585 ราย และเสียชีวิต 5,975,015 ราย

ขณะที่อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 80,647,343 ราย 2.อินเดีย จำนวน 42,930,015 ราย 3.บราซิล จำนวน 28,787,620 ราย 4.ฝรั่งเศส จำนวน 22,702,815 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 18,804,765 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 33 ของโลก จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 2,912,347 ราย