Wiko จัดหนัก 6 เดือนทุ่ม 132 ล. ปักธงสิ้นปีครองตลาด 15%

Wiko เร่งเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ ปักธงสิ้นปีขยับเป็น 15% 6 เดือนทุ่มงบฯการตลาดแล้ว 132 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเทเพิ่มอีก หวังยอดขาย 1.8 ล้านเครื่องเติบโต 86% สร้างรายได้ 3,600 ล้านบาท เน้นเจาะตลาดระดับล่าง-กลาง

นายอาณัติ วัดจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,100 ล้านบาท จากยอดขาย Wiko กว่า 9 แสนเครื่อง ปีนี้มั่นใจว่าจะขายได้ถึง 1.8 ล้านเครื่อง สร้างรายได้ 3,600 ล้านบาท เติบโต 86% และขยายส่วนแบ่งการตลาดจาก 10% เป็น 15% ในครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสแรกมียอดขายแล้วกว่า 4.5 แสนเครื่อง ขณะที่ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้อยู่ที่ 18 ล้านเครื่อง หรือเฉลี่ยขาย 1.5 ล้านเครื่อง/เดือน ถือว่าตลาดค่อนข้างนิ่ง และเป็นการซื้อเครื่องใหม่ทดแทน

ปัจจัยที่ทำให้ Wiko เติบโตคือ มีสินค้าครบทุกช่วงราคามากขึ้น แต่ยังเน้นเจาะกลุ่มตลาดระดับล่างถึงกลาง ราคาเริ่มต้นที่ 1,990-7,990 บาท โดยเครื่องระดับต่ำกว่า 3,000 บาทจะขายดี ล่าสุดได้เพิ่ม 2 รุ่นใหม่วางจำหน่ายสิ้นเดือนนี้ ได้แก่ View Max ราคา 3,890 บาท และ View Pro ราคา 7,990 บาท ขณะที่ปีนี้วางแผนจะเติบโตในเครื่องระดับราคา 4,000 บาทเพิ่มขึ้น

“ตลาดในกลุ่มล่าง-กลางมีหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาด แต่ Wiko มองว่าต้องแข่งกับตัวเอง จึงเน้นสร้างความแตกต่าง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย มีผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กปัญหาได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง และถ้าซ่อมเกิน 24% มีบริการเปลี่ยนเครื่องทดแทนให้”

ปัจจุบัน Wiko 4,500 ช่องทางจำหน่ายพร้อมขยายต่อเนื่อง รวมถึงศึกษาการขยายไปสู่ช่องทางออนไลน์ด้วย ขณะที่ยอดขายราว 70% มาจากต่างจังหวัด

ด้านนางสาววราภรณ์ เพ็ญสุขใจผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า ในครึ่งปีแรกตั้งงบประมาณด้านการตลาดไว้ 132 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง โดยยังใช้ช่องทางทั้งสื่อหลักและออนไลน์ในการสร้างแบรนด์ และใช้ “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งล่าสุดได้เพิ่มช่องทางโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับตำบลได้ เพิ่มกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตร อาทิ ร้านจัดจำหน่ายที่จะไปจับมือเปิดเคาน์เตอร์แนะนำสินค้าในรูปแบบ shop in shop ซึ่งตั้งเป้าจะเปิด 50 แห่งภายในสิ้นปี

Advertisment

“แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่เป็นที่ 2 ในฝรั่งเศส และเป็นที่ 4 ในยุโรปตะวันออก โดยจุดมุ่งหมายตอนนี้ต้องการกระจายตลาดในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นจึงต้องเร่งการเติบโต และไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญ”