คอลัมน์ Pawoot.com
โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
IOT
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า IOT อย่าง AIS มีบริการที่น่าสนใจเป็นบอร์ดเล็ก ๆ ชื่อว่า NB-IOT ช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ฉลาดขึ้น เพียงติดตั้งตัวนี้เข้ากับอุปกรณ์ มีคอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า M2M หรือ machine to machine ซึ่งจะพูดคุยกับอุปกรณ์ตัวอื่นได้โดยตัวบอร์ดตัวนี้จะฝังชิปใส่ซิมเข้าไป ตอนนี้เริ่มเห็นนำมาใช้มากขึ้น ก้าวต่อไป operator ก็จะ enjoy กับรายได้จากอุปกรณ์ ตลาด M2M ใหญ่โตมหาศาล เมื่อเรามีข้อมูลก็สามารถเอามาวิเคราะห์ในเชิงการตลาด ได้แม่นยำมากขึ้น ถ้าเอามาใช้ได้ การตลาดที่คุณทำจะ beyond กว่าที่เคยทำ
Face Recognition
อีกตัวที่น่าสนใจ เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมาแล้ว คือ face recognition การตลาดที่เริ่มเป็น personalize มากขึ้น เช่น ป้ายบิลบอร์ดหน้าร้านที่มีกล้องติดอยู่จะเปลี่ยนโฆษณาเพื่อให้เหมาะกับคนที่เดินเข้ามาในร้าน ทำให้โฆษณาปัจจุบันเริ่มเข้าใจลูกค้ามากขึ้น การทำ API แบบนี้ไม่ยาก เดี๋ยวนี้ Google มีบริการ Google cloud เรียกว่า cloud vision API ซึ่งเขียนต่อเชื่อมโยงหรือให้ Google ทำให้ได้เลย ฝั่ง Microsoft ก็มี Microsoft Azure ซึ่งเป็นตัว face API แค่อัพโหลดรูปเข้าไปก็ตรวจสอบใบหน้าได้ เราไม่ต้องไปลงทุนเรื่อง face หรือเทคโนโลยีเรื่องใบหน้า ทุกอย่างมีพร้อมหมดแล้วและราคาถูกมาก
Voice
เป็นเรื่องที่กำลังมาแรง ในอเมริกาที่กำลังฮิตมากคือ Google home สมาร์ทโฮมที่ซื้อมาติดตั้งที่บ้านได้ ในฝั่ง Apple ออก HomePod หรือ Amazon เริ่มใช้ voice สั่งซื้อสินค้าได้เลย เมื่อใช้เสียงสั่งได้ก็จะเริ่มเชื่อมโยงมากขึ้น รู้ตัวบุคคลได้ด้วยเสียง ฉะนั้น จะเปลี่ยนวิธีคิดนักการตลาดด้วย เพราะ interface ของลูกค้าเปลี่ยนไป ต่อไปการใช้ voice จะอยู่ใน smart display ที่ติดตั้งในบ้านและพูดคุยกับมันได้
ต่อไป Google assistant จะเป็นคีย์สำคัญอยู่ในทุกอุปกรณ์ทำให้ฉลาด พูดคุยกันรู้เรื่อง เป็นสิ่งที่เราใช้ AI ในชีวิตประจำวันได้ อยากให้ลองใช้ดู
Marketing Automation
เมืองนอกมีมานานแล้ว marketing automation คือการตลาดจากเดิมที่ต้องทำแบบ manual ทุกขั้นตอน แต่ตอนนี้เริ่มทำให้ connectivity มากขึ้น เช่น แอปที่เป็นพวก connectivity หรือเป็นพวก middleware อย่าง IFTTT หรืออีกตัวคือ Zapier ที่เป็นเหมือนตัวกลางทำให้อุปกรณ์และบริการต่าง ๆ บนโลกพูดคุยกันได้ เช่น เมื่อ uber มาใกล้ ๆ บ้านไฟจะเปิดอัตโนมัติ ฯลฯ นำมาใช้ด้านการตลาดได้ดีมาก เช่น เมื่อคุณสร้าง landing page ขึ้น และมีลูกค้าเข้ามากรอกแบบฟอร์มเกิด lead มันจะยิงไปที่อีเมล์ วิ่งเข้ามาที่ระบบ CM เป็นเหมือนตัวกลางที่เมื่อเกิดตรงนี้ปุ๊บมันวิ่งไปตรงนั้นต่อตรงนี้
นี่คือ marketing automation flow คือการวางโฟลว์ของการทำการตลาดในแต่ละช่วงเอาไว้ เมื่อมีโฟลว์ชัดเจนเราจะเริ่มเอา tools หรือ application ไปรองรับเพื่อคำให้เกิด flow automate ได้ การตลาดต่อไปจะเป็น automate มากขึ้น ไม่ต้องใช้คนอีกต่อไป เราแค่เซต tools เซต policy ตั้งแต่ต้นให้ดี ทุกอย่างจะวิ่งเองโดยอัตโนมัติ
Social Media
ต่อไปการตลาดจะไม่ได้ขายเฉพาะคนไทยอีกต่อไป คนจีนเริ่มใช้ facebook ADS และ target คนไทยแล้ว ทำทุกอย่างเป็นภาษาไทย มีระบบ call center เป็นภาษาไทย แต่ไม่มีตัวตนในประเทศไทย การทำ cross border หรือ cross border marketing จะมาแรง หากไม่ปรับตัวจะเจอคู่แข่งจากต่างประเทศมาตักลูกค้าออกไปหมด
บทสรุป
– การตลาดแบบเดิม ๆ เริ่มไม่ได้ผลแล้ว ต้องขายได้เลย
– tools ใหม่ ๆ เรียนรู้และหัดใช้
– ต่างประเทศกำลังมา (ได้เวลาบุกกลับ)
– เมืองไทยเล็กเกินไปแล้ว คิดออกไปนอกประเทศ
– marketing + devices + data
– ข้อมูลที่มากมายจะทำให้นักการตลาดเปิดโลกมากขึ้น
– จงใช้ ! แล้วจะเข้าใจว่าจะเอามาใช้กับธุรกิจหรือการตลาดได้อย่างไร
