คอลัมน์ Start Up ปัญหาทำเงิน โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
เวลาพูดถึงสตาร์ตอัพแฟชั่น สิ่งแรกที่มักนึกถึง คือ ภาพเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับต่าง ๆ ที่ถูกถ่ายทำอย่างงดงามให้เลือกช็อป
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ดังนั้น พอมีสาวนางหนึ่งลุกขึ้นมาทำ e-Commerce ผ่านเว็บไซต์ที่ไม่เน้นดีไซน์ ไม่เน้นรูป มีแค่ช่องไม่กี่ช่องให้กรอก แล้วลูกค้าไปลุ้นกันว่าเสื้อผ้าที่สั่งจะหน้าตาอย่างไร หลายคนแทบเอามือทาบอก ด้วยนึกไม่ออกว่าสตาร์ตอัพรายนี้จะเอาชีวิตรอดอย่างไร
แต่นางทำได้ค่ะ “Kids on 45th” ก่อตั้งโดย “เอลิส เวิร์ทธี่” ในปี 2017 เพื่อขายเสื้อผ้าเด็กมือสองราคาถูก เน้นกลุ่มพ่อแม่ต้องวิ่งวุ่นหาเงินงก ๆ จนแทบไม่มีเวลาหายใจ อย่าว่าแต่จะมานั่งสไลด์หน้าจอเลือกชุดสวยให้ลูก
Kids on 45th เคยเป็นร้านขายเสื้อมือสองเก่าแก่ในย่านชุมชนกลางเมืองซีแอตเทิล แต่เจ้าของเก่าสู้กระแสดิจิทัลไม่ไหว ขายกิจการให้เอลิส ผู้ปลุกปั้นจนกลายเป็น e-Commerce ขวัญใจคนจน (ร้านเดิมก็ยังเปิด)
ก่อนเปิดขายผ่านเว็บไซต์ “เอลิส” นั่งสำรวจพฤติกรรมลูกค้าในร้าน พบว่าคนรายได้น้อยที่ปากกัดตีนถีบ เวลามาซื้อเสื้อให้ลูกจะไม่พิรี้พิไร ส่วนมากขอแค่สภาพดี ดีไซน์ได้ ราคารับไหว
ฉะนั้นเอางบฯออกแบบ ค่าจ้างกราฟิกดีไซเนอร์และช่างภาพ มาจ้างพนักงานคัดเลือกเสื้อผ้าแล้วส่งให้ตรงตามความต้องการลูกค้าดีกว่า
เว็บ Kids on 45th จึงออกมาเรียบง่ายสมใจ ไม่มีรูปเสื้อผ้าสวย ๆ ไม่มีกราฟิกเก๋ ๆ สิ่งที่ลูกค้ารู้คือ ที่นี่เป็นร้านขายเสื้อผ้ามือสอง สำหรับเด็กวัยแรกเกิด-16 ปี เปิดมาหน้าแรก จะมีแบบฟอร์มให้ใส่ชื่อ ที่อยู่ อายุ และเพศของเด็ก แล้วต้องเสื้อ กางเกง กระโปรง เสื้อโค้ต อย่างละกี่ตัว กดจ่ายเงิน เป็นอันเสร็จพิธี
ลูกค้าจะได้เห็นหน้าตาสินค้า ก็วันที่ของมาส่งหน้าบ้าน โดยจะมาในกล่องอย่างดี ลูกค้าสั่งซื้อมากสุด 17 ชิ้น ราคาเหมายกกล่องอยู่ที่ 35 เหรียญ ยิ่งสั่งเยอะ ราคาต่อชิ้นยิ่งถูก แต่เฉลี่ยแล้วตกตัวละ 3 เหรียญนิด ๆ ถูกกว่าเสื้อผ้าทั่วไป 20-90% มีแบรนด์ตั้งแต่ไฮเอนด์ Ralph Lauren จนถึงแบรนด์บ้าน ๆ ทั้งพนักงานยังเลือกเสื้อผ้าให้ตรงกับสภาพอากาศของฤดูนั้น ๆ ด้วย
Kids on 45th มีสไตลิสต์ 15 คนในซีแอตเทิล อีก 15 คนเป็นพนักงานคัดเลือกสินค้าอยู่ที่โกดังในเทกซัส ปีแรก
ส่งเสื้อผ้าให้ลูกค้ากว่า 500,000 ชิ้น และมีนักลงทุนเห็นแวว ให้เงินมาสนับสนุนแล้วกว่า 3.3 ล้านเหรียญ มหาอำนาจอย่างอเมริกา ช่องว่างของคนรวยกับคนจนถ่างกว้างขึ้นทุกวัน 12.3% ของคนอเมริกันฐานะยากจน
Kids on 45th ขายดิบขายดี จึงไม่แปลก เพราะมีสตาร์ตอัพน้อยรายที่เสนอสินค้า-บริการให้คนรายได้น้อย ทั้งยังมาในช่วงที่สังคมตื่นตัวการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การนำเสื้อเก่ามาบริจาคจึงเป็นมหกรรมที่คนพอมีอันจะกินนิยมกัน (ในอเมริกา มีคนบริจาคเสื้อผ้าเก่าปีละ 9 ล้านกิโล) กลายเป็นแหล่งสมบัติของร้านขายเสื้อมือสองอย่าง Kids on 45th นั่นเอง
เพื่อลดปัญหาส่งคืนสินค้า (กว่า 40% ของสินค้าออนไลน์ในอเมริกาถูกส่งกลับ) Kids on 45th เสนอให้ลูกค้าเอาสินค้าไปบริจาคเพื่อแลกกับแต้มสะสม หรือเงินสด เพื่อใช้ซื้อสินค้าตัวต่อไปแทน ช่วยแก้ปัญหาการส่งคืนสินค้าแถมช่วยสังคมไปในตัว
Kids on 45th เป็นสตาร์ตอัพที่น่าจับตาอีกราย นอกจากมีตลาดขนาดใหญ่ให้เล่น ยังมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีวิธีลดต้นทุนที่ชาญฉลาด ตอบโจทย์ลูกค้า และยังผสานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เข้ากับธุรกิจได้อย่างไม่ประดักประเดิด ทำให้ทุกอย่างดูกลมกลืนลงตัว
