Open Data-AI เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส

เมื่อ “ดาต้า” คือสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับภาครัฐและเอกชน เร็ว ๆ นี้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เปิดเสวนา “Importance of Ethics in Artificial Intelligence” ยกกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปิดข้อมูล (open data) โดย “Francesco Checchi” UNODC Regional Anti-Corruption Adviser ตัวแทนจากองค์การสหประชาชาติ ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการใช้ข้อมูลของหน่วยงานเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมรวมถึงคอร์รัปชั่น

โดยระบุว่า open data มีหลักสำคัญ คือ พื้นฐานของข้อมูลต้องง่ายต่อการเข้าถึง สามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรมในการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส และรับผิดชอบในการนำไปใช้

“เมืองพาโลอัลโตในแคลิฟอร์เนีย มีการเปิดเผยข้อมูลที่ง่ายต่อการเข้าใจ ง่ายต่อการติดตาม ทำให้ประชาชนในพื้นที่รู้ว่า ภาครัฐได้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ได้รู้ว่าประชาชนต้องการอย่างไร
สิ่งที่สำคัญในเรื่องนี้มาก ๆ ไม่ใช่เรื่องของภาครัฐบาล แต่อยู่ที่ว่าชุมชนหรือประชาสังคมมีความเข้าใจและรู้ว่าแต่ละสังคมว่าเกิดอะไร”

หรือในประเทศยูเครนมีแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการจัดซื้อของภาครัฐที่ทำให้วิเคราะห์ข้อมูลได้ต่อเนื่อง มีการตรวจสอบการทำงานของภาครัฐด้วยการนำชุดข้อมูลหลายส่วนมาวิเคราะห์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่

ขณะที่ในมาเลเซียมีโครงการ Sinar Project ที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด และแอปพลิเคชั่นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พลเมืองชาวมาเลเซียได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบปรับปรุงกิจการสาธารณะของประเทศ “ข้อมูล” ที่นำมาเปิดเผยช่วยตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน สร้างความโปร่งใสได้ ส่งเสริมบทบาทของภาคประชาชน

“ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บเซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึง machine learning ที่ทำให้ระบบเกิดการเรียนรู้ได้เข้ามามีบทบาทมากทั้งในภาครัฐและเอกชน ทั้งยังสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ส่งผลในวงกว้างได้ อาทิ บริษัท Moody’s ได้นำข้อมูลและ AI ที่ถูกเชื่อมโยงกันมาใช้พยากรณ์สภาวะเศรษฐกิจโลกได้อย่างแม่นยำขึ้น บริษัท GE Healthcare ใช้เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของสุขภาพแต่ละบุคคลได้ว่ามีแนวโน้ม มีความเสี่ยงจะเกิดโรคใดในอนาคต ขณะที่ FINRA : Financial Industry Regulatory Authority (หน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐอเมริกา) ได้นำ AI และ machine learning มาใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมในระบบที่มีกว่า 35 ล้านธุรกรรมเพื่อหาความผิดปกติ ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการปกป้องอุตสาหกรรมและนักลงทุน