“ทีโอที” ไม่มีเงินปรับระบบเบอร์บ้านเป็น 10 หลักตามแผนดีเดย์ปี 2564 เหตุ “กสทช.-ดีอี” ไม่เคาะเงินพันล้านอุดหนุน ฟาก “กสทช.” ชี้เป็นโครงข่ายเพื่อธุรกิจไม่เข้าเกณฑ์ โบ้ย “กองทุนดีอี” ซัพพอร์ต จี้รัฐมนตรีใหม่ต้องเร่งเคลียร์
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า การปรับปรุงโครงข่ายโทรศัพท์ประจำที่ (fixed line) ตามแผนเลขหมายโทรคมนาคมระยะยาว เพื่อให้รองรับเพิ่มจากเลขหมายโทรศัพท์ประจำที่ จาก 9 หลักเป็น 10 หลัก ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 12 ธ.ค. 2560 ที่มอบหมายให้บริษัทดำเนินการจะทำไม่ทัน 1 ม.ค. 2564
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เนื่องจากไม่มีเงินทุน หลังจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เสนอให้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) เห็นชอบในหลักการตั้งแต่ พ.ย. 2561 และทำหนังสือขอให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สนับสนุนงบประมาณ แต่ยังไม่มีคำตอบใด ๆ
ส่อลากยาวถึงปี’68
“เมื่อไม่มีเงินทุน ก็ต้องทำตามแผนเดิมของทีโอทีที่จะทยอยปรับปรุงให้ครบในปี 2568 เพื่อไม่ให้เป็นภาระการเงิน”
สำหรับวงเงินลงประมาณโครงการนี้อยู่ราวพันล้านบาท และหากได้รับเงินสนับสนุนจะต้องใช้เวลาจััดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ ไม่น้อยกว่า 5-6 เดือน และติดตั้งอีกไม่น้อยกว่า 6-9 เดือน ฉะนั้นเมื่อยังไม่มีงบประมาณให้เริ่มดำเนินการได้ จึงไม่สามารถทำได้ทันภายในปี 2564
“การปรับปรุงโครงข่าย fixed line ในครั้งนี้ ด้วยแนวโน้มของเทคโนโลยี fixed line ที่เป็นขาลงอยู่แล้ว จึงไม่ได้จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับทีโอทีมากมายนัก ทีโอทีจึงวางแผนปรับปรุงระยะยาว แต่ทางรัฐบาลต้องการให้ทัน 1 ม.ค. 2564 ตามแผนเลขหมายของ กสทช. เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่”
ใช้หารายได้-ไม่เข้าเกณฑ์
ด้านนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำนักงาน กสทช.ได้ทำหนังสือแจ้งกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) แล้วว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564 เลขหมายโทรศัพท์ในประเทศไทยทั้ง fixed line และ mobile จะเป็นเลข 10 หลักเท่ากันทั้งหมด หากทำไม่ทันก็จะกระทบกับการใช้งานภายในเครือข่ายของทีโอทีที่จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับเลขหมายของเครือข่ายอื่นได้
“ผู้ให้บริการ fixed line รายอื่นอัพเกรดระบบเสร็จหมดแล้ว ถ้าทีโอทีทำไม่ทันก็จะเป็นผลเสียกับทีโอทีเอง จะเลื่อนกำหนดใช้เบอร์บ้าน 10 หลักก็คงไม่ได้เพราะแจ้ง ITU ไปหมดแล้ว ซึ่งจริง ๆ กระทรวง ดีอีมีกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลฯ อยู่ก็น่าจะใช้เงินส่วนนี้มาอุดหนุนการลงทุนได้ แต่ถ้าจะให้กสทช.ซัพพอร์ตคงต้องให้ทางรัฐบาลสั่งการมา เพราะเป็นการลงทุนโครงข่ายให้เอกชนนำไปใช้หารายได้ จึงไม่เข้าข่ายที่จะขอเงินสนับสนุนจากสำนักงาน กสทช. หรือกองทุนวิจัยและพัฒนาเพื่อกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะได้”
ส่วนที่การปรับปรุงดังกล่าวไม่ได้เอื้อเฉพาะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่การปรับปรุงโครงข่ายก็จะช่วยให้ทีโอทีสามารถเปิดให้บริการใหม่ ๆ บนโครงข่าย fixed line ได้เหมือนผู้ให้บริการรายอื่น
“ทุกวันนี้โครงข่ายทีโอที fixed line ยังเก็บเงินค่าโทร.ข้ามเขตทั้ง ๆ ที่พื้นที่ติดกัน ยังย้ายเบอร์ไปใช้ข้ามพื้นที่ไม่ได้ ซึ่งกระทบกับผู้บริโภค ต่างกับเจ้าอื่นที่ไม่มีปัญหานี้แล้ว”
สำหรับการปรับเลขหมายโทรศัพท์ให้เป็น 10 หลักทั้ง mobile และ fixed line จะทำให้เลขหมายในระบบเพิ่มขึ้น โดยเบอร์แบบประจำที่จะอยู่ที่ 100 ล้านเลขหมายส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ 500 ล้านเลขหมาย
รอรัฐบาลใหม่เคาะอีกรอบ
ขณะที่นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอี เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ทำหนังสือแจ้งสำนักงาน กสทช.ให้พิจารณาหาแหล่งทุนสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
“คงต้องประสานงานไปอีกรอบ หาก กสทช.ยืนยันว่า ไม่เข้าเกณฑ์ให้ทุนอุดหนุนได้ ก็ต้องเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดดีอี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
ต่อไป ซึ่งการประชุมครั้งถัดไปคงต้องรอหลังตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จ”
ส่วนเหตุผลที่ต้องให้ทางสำนักงาน กสทช.สนับสนุนแหล่งเงินทุน เนื่องจากการลงทุนในโครงการดังกล่าวไม่เข้าข่ายการขอรับเงินสนับสนุนกองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ ที่ระบุให้ต้องเป็นประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะและไม่แสวงหากำไร แต่โครงข่ายดังกล่าว บมจ.ทีโอทีได้มีการเรียกเก็บค่าใช้บริการเข้าเป็นรายได้ของบริษัท