RISE เผยสตาร์ตอัพเวียดนามแซงไทย แนะโฟกัสจุดแข็ง ดัน DeepTech ด้านอะกริเทค, ฟู้ดเทค, ไบโอเทค, เฮลท์เทค พร้อมเน้นร่วมมือกับองค์กรใหญ่ เชื่อยูนิคอร์นไทยตัวแรกเป็น B2B
นายศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาค (RISE) กล่าวว่า ปัจจุบันมีสตาร์ตอัพในไทยราว 2,000 ราย ถือว่าเติบโตได้ดี แต่มี “DeepTech” ไม่ถึง 100 ราย ขณะที่ทั่วโลกกำลังโฟกัสที่ DeepTech อาทิ เอไอ ควอนตัมคอมพิวติ้ง โรโบติก ไบโอเทค เฮลท์เทค บล็อกเชน ทำให้ 4 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนใน DeepTech ทั่วโลกเติบโตถึง 22% เฉพาะปีที่แล้วสูงถึง 17,886 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กองทุน (CVC) ในไทยใช้ 25% ของเงินลงทุนใน DeepTech
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
“ปีหน้าจะเห็นสตาร์ตอัพระดับซีรีส์ B ในไทยมากขึ้น อาจถึง 10 ราย แต่อีโคซิสเต็มไทยยังไม่พร้อม ตั้งแต่กฎหมายต่าง ๆ การลงทุนสตาร์ตอัพในอาเซียนกว่า 90% จึงกระจุกอยู่แค่ในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และต้องยอมรับว่าเวียดนามแซงหน้าเราไปแล้ว”
สิ่งที่ไทยทำได้คือ โฟกัสในจุดแข็ง อย่าง DeepTech ที่เหมาะกับประเทศไทยมองว่ามี 2 แกน นอกจากเอไอที่ต้องไปคือ อะกริเทค, ฟู้ดเทค, ไบโอเทค และเฮลท์เทค เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในไทย ขณะที่แทรเวลเทคก็น่าสนใจ
“จะเปลี่ยนประเทศต้องเริ่มที่องค์กรใหญ่ง่ายกว่า โดยใช้สตาร์ตอัพเป็นตัวช่วยให้เดินได้เร็ว พอเขาโตสตาร์ตอัพก็โตด้วย สิ่งสำคัญคือ สปีดไม่ใช่สเกล และเราเชื่อว่ายูนิคอร์นไทยตัวแรกจะมาจากธุรกิจ B2B ไม่ใช่ B2C” ที่ผ่านมา RISE มีงาน 4 ด้านคือ
1.RISE accelerator ช่วยให้เกิดบิสซิเนสจริง รวมทั้งจับคู่กับองค์กร ปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสตาร์ตอัพเข้าร่วมกว่า 1,500 บริษัท ใน 20 ประเทศ มีมูลค่ารวมกันกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
2.RISE corporate innovation academy พัฒนาคนในองค์กร 3 ระดับตั้งแต่ CEO, VP และ talent ที่ผ่านมามีเข้าร่วมกว่า 2,000 ราย เพิ่มบริษัทลูกรวม 6 บริษัท
3.RISE venture เน้นลงทุนในระดับซีรีส์ A โดยลงทุนแล้วยังไม่ถึง 10 ราย และ 4.RISE experience เน้นการสร้างการเรียนรู้ผ่านการลงมือ เช่น งานคอนเฟอเรนซ์
“ในช่วง 3 ปีที่ก่อตั้งบริษัท 70% ของสตาร์ตอัพที่เข้าร่วมทำธุรกิจกับองค์กร ช่วยเพิ่มรายได้หรือช่วยลดต้นทุนทั้งตัวสตาร์ตอัพและองค์กร และเราช่วยขับเคลื่อน GDP ประเทศไทยได้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วยเพิ่มทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว 0.1% และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 0.2% ภายใน 5 ปีจากนี้ตั้งเป้าเพิ่ม GDP เป็น 1%”
ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดงาน RISE Innovation Week 2019 ถือเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 23-27 ก.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายจับคู่องค์กรและภาครัฐกับกลุ่ม talent โดยโฟกัสที่ DeepTech เพราะเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยให้องค์กร สตาร์ตอัพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
