ปั้นคอนเทนต์ให้ถูกที่ถูกเวลา เคล็ดลับสร้างพลังโซเชียล

(Photo by Chesnot/Getty Images)

โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นอีกช่องทางสื่อสารที่ทรงพลัง ล่าสุดเวทีเสวนา “iCreator Conference 2019” ได้เปิดเผยเคล็ดลับในการสร้างคอนเทนต์ผ่านโซเชียลมีเดียให้โดนใจ

“เรียน-ซ่อม-ปลูก” มาแรง

“มุกพิม อนันตชัย” หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย เปิดเผยว่า ทั่วโลกมีวิดีโอถูกอัพโหลดขึ้น และยังเห็นการเปิดรับคอนเทนต์จากรายย่อย ไม่ใช่แค่ช่องใหญ่ ดังนั้นครีเอเตอร์มีโอกาสมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เริ่มเห็นพฤติกรรมผู้ใช้ชอบเข้ามาดูข่าว ซึ่งไทยยังขาดแชนเนลวิเคราะห์ข่าว ต่างกับในเมืองนอกที่มีมาก กลุ่มเกี่ยวกับเลิร์นนิ่งกำลังมาแรง มียอดวิวกว่าพันล้านในแต่ละวัน อย่างวิดีโอซ่อมพัดลม ไม่ได้มีโปรดักชั่นที่ดี ไม่ต้องตลก แต่ให้ความรู้ คนก็สนใจ มีการสอนปลูกต้นไม้ต่าง ๆ ด้วย มีคนมาแชร์ความรู้ มีคนมาดู เพราะอยากได้ความรู้ โดยจะเห็นคีย์เวิร์ด เรียน ซ่อม ปลูก ติดอยู่ในกูเกิลเทรนด์”

วิดีโอสั้น ๆ มาแรงบนเฟซบุ๊ก

ด้าน “ธารินาฎ ภัทรรังรอง” Strategic Partner Manager, Creators and Public Figures จาก Facebook กล่าวว่า เทรนด์การใช้ฟีเจอร์วิดีโอกำลังมาแรง โดย Facebook Watch มีผู้ชมวิดีโอจากทั่วโลกกว่า 720 ล้านคน โดย 140 ล้านคน ใช้เวลาดู 26 นาทีทุกวัน

“Facebook Watch ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดเป็น community เชื่อมคนเข้าด้วยกัน มีฟีเจอร์ที่จะโชว์ให้เห็นว่าเพื่อนเราสนใจดูอะไร และเทรนด์คนทั่วไปกำลังสนใจดูอะไร สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ของครีเอเตอร์ให้รู้เทรนด์ และรู้ว่าคนชอบดูอะไร”

โดยสิ่งที่ครีเอเตอร์ต้องทำคือการ สร้าง fan loyalty สร้างกิจกรรมให้มีส่วนร่วมต่างๆ อาทิ อินเตอร์แอ็กชั่น วอตช์ปาร์ตี้ ทำโพล และเปิดใช้ฟีเจอร์ Top Fan เพื่อจะช่วยให้รู้ว่าใครมาเข้ามามีส่วนร่วมด้วยมากที่สุด

“อีกเทรนด์คือ การสร้างวิดีโอสตอรี่ ตอนนี้มีการสร้างสตอรี่วันละ 1 พันล้านสตอรี่ ซึ่งเคล็ดลับ คือ การไม่ปรุงแต่ง”

ส่วนการหารายได้จากโฆษณา ต้องเป็นคลิปวิดีโอความยาว 3 นาทีขึ้นไป และต้องมีคนฟอลโลว์เกิน 1 หมื่นคน ใน 60 วันต้องมีคนดูวิดีโอ 60,000 วิว

“การจะทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จจะต้องเป็นตัวเองมากที่สุด ทำคอนเทนต์ที่รับชมผ่านมือถือ และอย่าทำให้เชิงพาณิชย์ทำลายตัวตน”

Twitter แหล่งรวมวัยรุ่น

“ทักษพร เลิศสำราญพินิจ” Client Partner (Twitter) MediaDonuts กล่าวว่า ทวิตเตอร์ในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย 66% ของผู้ใช้ อายุ 16-34 ปี และเป็นกลุ่มที่เป็นผู้นำในการกระจายข่าวสารไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ จนเกิดเป็นกระแส viral เรียกได้ว่าแม้จะมีจำนวนน้อย แต่เสียงดัง

สำหรับสิ่งที่จะทำให้มีตัวตนอยู่บนทวิตเตอร์ได้ คือ แฮชแท็ก (#) เพราะผู้ใช้นิยมใช้ฟังก์ชั่น see what”s happening และ follow interest และติดตามโดยใช้แฮชแท็ก มีทั้งการติดตามศิลปินที่ชื่นชอบ เรื่องของละคร และข่าว รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ที่สร้าง # เป็นของตัวเองขึ้นมา