อะโดบี เปิดเทรนด์ดิจิทัลปี 64 “บิ๊กดาต้า-ไฮบริดคลาวด์” รุ่ง

อะโดบี เผย เทรนด์ดิจิทัล ปี 2564 ธุรกิจใช้บิ๊กดาต้า ไฮบริดคลาวด์รุ่ง ชี้ธุรกิจส่วนใหญ่ทรานส์ฟอร์มยาก เหตุเพราะใช้เทคโนโลยีเก่า-ขาดทักษะดิจิทัล

วันที่ 5 มี.ค. 2564 นายไซมอน เดล กรรมการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อะโดบี กล่าวว่า รายงานเทรนด์ดิจิทัล ประจำปี 2564 ของอะโดบี โดยร่วมกับ Econsultancy สำรวจความคิดเห็นบุคลากรฝ่ายการตลาด โฆษณา อีคอมเมิร์ซ และไอทีในบริษัทเอเยนซี่ทั่วโลกกว่า 13,000 คน

พบว่าปี 2564 ธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) ตระหนักในกระแสดิจิทัลดิสรัปชั่นและให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลเชิงลึก หรือบิ๊กดาต้ามาพัฒนาบริการให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด โดยผู้บริหารในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ประมาณ 35% เชื่อว่าองค์กรของตนสามารถเข้าถึงบิ๊กดาต้าได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่ผู้บริหารในเอเชียมีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 9% โดยผู้บริหารในเอเชียกว่า 49% และผู้บริหารใน ANZ อีก 40% มีแผนที่จะลงทุนในบิ๊กดาต้าเพิ่ม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience)โดยผู้บริหารใน ANZ กว่า 33% ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ลูกค้ารายบุคคล ส่วนผู้บริหารในเอเชีย 35% มุ่งไปที่การสร้างฐานลูกค้าใหม่

ไซมอน เดล

“บริษัทที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า มีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาวได้มากกว่าคู่แข่ง เพราะมีความพร้อมในการปรับตัว ใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะคลาวด์ในการเก็บข้อมูลของลูกค้า ทำให้สามารถตรวจสอบ Customer Journey ได้แบบเรียลไทม์”

ขณะเดียวกันองค์กรส่วนใหญ่ยังมีอุปสรรคในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าอยู่มาก ทั้งปัญหา “Legacy System” หรือการใช้เทคโนโลยีที่เก่าและล้าสมัย โดยเฉพาะองค์กรในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่สูงถึง 51% และองค์กรในเอเชีย 37%

ปัญหา WorkFlow ในการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล พบในองค์กรแถบเอเชียถึง 48% องค์กรในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 38% และสุดท้ายคือการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัล พบในเอเชียมีสัดส่วนสูงถึง 43% รองมาเป็นออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 34%

นายไซมอน กล่าวต่อว่า เมื่อบริการทุกอย่างเปลี่ยนมาเป็นดิจิทัล ข้อมูลของลูกค้าจึงเปลี่ยนมาเป็นบิ๊กดาต้าในโลกดิจิทัลจำนวนมหาศาล การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายประเทศมีกฎหมายคุ้มครองกับประชาชน

อย่างไทยก็มี พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่จะบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้ ธุรกิจจึงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ความท้าทายของธุรกิจคือ การเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็ว (Bandwidth) การขอความยินยอมการใช้ข้อมูลของลูกค้า และการใช้ข้อมูลของลูกค้าอย่างระมัดระวัง

อย่างไรก็ตามหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียต้องการพัฒนาเครื่องมือ (Tools) สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เทรนด์ที่เห็นชัดคือ การใช้ไฮบริดคลาวด์ โดยองค์กรมักจะใช้เครื่องมือในพับบลิคคลาวด์เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเบื้องต้น และใช้ไพรเวตคลาวด์ในการเก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญของลูกค้า

นอกจากนี้ยังมุ่งลงทุนในเทคโนโลยี สร้างแพลตฟอร์มให้บริการขั้นพื้นฐานกับลูกค้า เพื่อให้บริการลูกค้าแบบ End-to-End ขณะที่แบรนด์ที่ทำการขายผ่านมาร์เก็ตเพลสจะหันมาทำ “ไดเร็กอีคอมเมิร์ซ” หรือเก็บดาต้าลูกค้าโดยตรงเพื่อกำหนดกลยุทธ์ของธุรกิจ ซึ่งทำให้มาร์เก็ตเพลสต้องปรับตัว และพัฒนาเครื่องมือให้ตอบสนองความต้องการของแบรนด์ให้ได้