นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้เชิญตัวแทนสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ (ไอไอจี) เพื่อขอความร่วมมือในการประสานงานกับกูเกิลและเฟซบุ๊กเพื่อระงับการเผยแพร่ข้อมูลเว็บไซต์ผิดกฎหมายผ่านทั้ง 2 ช่องทาง หลังจากหารือกับพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเรื่องปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมในวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.60)
โดยที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ส่งคำสั่งศาลตรงไปยังผู้ให้บริการ เช่น เฟซบุ๊กและยูทูบ เพื่อให้ปิดกั้น Url แต่บาง Url ไม่ได้ปิดลง ซึ่งอาจจะเกิดจากการประสานงานคลาดเคลื่อน โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-9 ก.ค. มี Url ที่ถูกสั่งปิดจำนวน 2,093 Url โดยเป็นเฟซบุ๊กจำนวน 1,471 Url ปิดแล้ว 156 Url, ยูทูบมี 622 Url มีการปิดไป 9 เท่านั้น
ดังนั้นกระทรวงดีอีและปอท.จึงได้ร่วมกับกสทช.โดยจะส่งสำเนาอีเมลคำสั่งที่ส่งให้ผู้บริการให้ กสทช. เพื่อให้ กสทช.ส่งต่อให้สมาคมไอเอสพีและไอไอจี ช่วยประสานในการส่งสำเนาคำสั่งศาลไปยังเฟซบุ๊กและยูทูบ เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยล่าสุดช่วงวันที่ 1 พ.ค.-16 ก.ค. 2560 มีทำสั่งศาลให้ปิด Url ทั้งหมด 2,907 เป็นเฟซบุ๊ค 2,082 Url ปิดแล้ว 899 Url ยูทูบมี 672 Url ปิดแล้ว 180 Url และอื่น ๆ 153 Url ปิด 36 Url ซึ่งปิดกั้นได้เพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้กสทช.ได้ขอให้ทั้ง 2 สมาคมรายงานความคืบหน้าในการระงับเพจที่มีคำสั่งศาลกลับมาที่ กสทช.ในวันที่ 7 ส.ค. เพื่อทำรายงานส่งรอง พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ในวันที่ 8 ส.ค. ส่วนหมายศาลหลังจากวันที่ 16 ก.ค.จะมอนิเตอร์ต่อไปหลังจากรายงานนี้ โดยที่ผ่านมาได้มีการปิดเว็บไซต์ไปแล้ว 6,900 กว่าเว็บไซต์
